หลังจากที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผยแพร่ผลกระทบจากที่ องค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency: WADA) หรือ วาดา ได้มีบทลงโทษประเทศไทย ซึ่งในส่วนของวงการฟุตบอลไทย สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ได้แจ้งข้อจำกัดดังนี้ 1.สมาคมฯ จัดการแข่งขันที่เป็น การแข่งขันนัดเดียวได้ และอนุญาตให้ตัวแทน (ทีมชาติ และ สโมสร) เข้าร่วมการแข่งขันแบบนัดเดียวที่จัดขึ้นในต่างประเทศ ได้ 2.สมาคมฯ ไม่สามารถจัดการแข่งขันใดๆ ในประเทศไทย ทั้งการแข่งขันระดับสโมสรและทีมชาติ รวมถึงการเสนอตัวจัดการแข่งขันในรูปแบบสนามกลาง หรือการแข่งขันที่เป็นส่วนหนึ่งของรายการแข่งขัน เช่นรอบคัดเลือก

3.สมาคมฯ สามารถส่งตัวแทน (ทีมชาติ และ สโมสร) เข้าร่วมทำการแข่งขันในต่างประเทศได้ 4.สมาคมฯ สามารถจัดการแข่งขันที่ได้รับสิทธิ ก่อนหน้าคำตัดสินบทลงโทษของ วาดา และ 5. ธงชาติไทยไม่สามารถปรากฏได้ในการแข่งขันระดับทีมชาติและสโมสร ที่จัดขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทั้งนี้ธงชาติไทยที่ปรากฏบนชุดแข่งขันได้รับการยกเว้น

“กีฬาเดลินิวส์” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ “พ่อบ้านโจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ถึงผลกระทบที่เด่นชัด โดย นายพาทิศ กล่าวว่า ถ้ายึดตามคำตัดสินโทษของ วาดา เวลานี้ ไทยสามารถจัดแข่งแบบอุ่นเครื่อง ฟีฟ่าเดย์ หรือไปแข่งอุ่นเครื่องต่างประเทศได้ เพราะเป็นการเตะแบบนัดเดียว แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือ จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันที่เป็นทัวร์นาเมนต์ไม่ได้, เสนอตัวเป็นสนามกลางไม่ได้ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันก็ไม่ได้ นั่นหมายความว่า ไทยจะไม่สามารถเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนคัพ รอบคัดเลือก ในเดือน มิ.ย.ได้ รวมทั้ง ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2022 ก็จะไม่ได้เตะในไทย โดยแนวโน้มล่าสุด รอบแบ่งกลุ่มจะยังจัดแบบมีเจ้าภาพ ไทยก็เสนอตัวไม่ได้ หรือหากกลับไปจัดแบบเหย้า-เยือน สโมสรก็จัดแข่งเกมเหย้าในไทยไม่ได้เช่นกัน นอกเสียจากว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโทษ

สำหรับ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2022 4 สโมสรไทยที่เข้าแข่งขันคือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, ลีโอ เชียงราย (รอบแบ่งกลุ่ม), บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี (รอบเพลย์ออฟ)