สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซลเนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับสถานการณ์สงครามกับรัสเซีย ซึ่งเซเลนสกีเรียกร้องให้สหรัฐเพิ่มความสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ในด้านระบบป้องกันทางอากาศ และความร่วมมืออื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับศักยภาพของยูเครน ในการปกป้องน่านฟ้าจากการโจมตีทางทหารของรัสเซีย


ขณะที่ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า การสนทนาดังกล่าวใช้เวลานานประมาณ 40 นาที และทรัมป์ “แสดงความพร้อม” ว่าสหรัฐจะมอบความช่วยเหลือให้แก่ยูเครน ตามการร้องขอของเซเลนสกี


อย่างไรก็ตาม การสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังมีรายงานว่า สหรัฐระงับการส่งมอบอาวุธบางส่วนให้แก่ยูเครน รวมถึงระบบป้องกันทางอากาศ ซึ่งนางแทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การระงับส่งมอบอาวุธให้แก่ยูเครนครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลวอชิงตัน “ยุติมอบความช่วยเหลือ” ให้แก่ยูเครน โดยย้ำว่า “เป็นเพียงสถานการณ์เดียว และเป็นเพียงสถานการณ์เฉพาะ”


อนึ่ง ในยุครัฐบาลวอชิงตันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีการให้คำมั่นจะมอบความสนับสนุนด้านอาวุธให้แก่ยูเครน เป็นวงเงินสะสมมากว่า 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.1 ล้านล้านบาท)


ด้านกระทรวงการต่างประเทศยูเครนออกประท้วงอย่างเป็นทางการถึงรัฐบาลวอชิงตัน ว่าการที่สหรัฐระงับการส่งมอบอาวุธบางส่วนให้แก่ยูเครน หรือ “การหน่วงเหนี่ยว” ความสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ผู้รุกรานทำสงครามยืดเยื้อมากยิ่งขึ้นเท่านั้น.

เครดิตภาพ : AFP