สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ว่า นพ.ฮันส์ คลูเกอ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ประจำภาคพื้นยุโรป กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า โควิด-19 กลับมาเป็นโรคซึ่งคร่าชีวิตชาวยุโรปมากที่สุดอีกครั้ง หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ การเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งเพิ่มอัตราการติดเชื้อและการแพร่กระจายของโรค และการฉีดวัคซีนที่ยังไม่ครอบคลุมมากพอ

ทั้งนี้ นพ.คลูเกอ เรียกร้องประชาชนในยุโรปออกมาฉีดวัคซีนให้มากกว่านี้ การใช้มาตรการขั้นพื้นฐานทางสังคมเพื่อควบคุมโรค และการพัฒนากลยุทธ์การรักษาแบบใหม่ มิเช่นนั้น ภายในเดือน มี.ค.ปีหน้า เฉพาะภูมิภาคยุโรปอาจมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มอีกมากกว่า 500,000 ราย

แม้ นพ.คลูเกอ มองว่า มาตรการบังคับฉีดวัคซีน “ควรเป็นทางเลือกสุดท้าย” แต่สนับสนุนการใช้สิ่งที่เรียกว่า “บัตรผ่านโควิด-19” หรือเอกสารยืนยันการฉีดวัคซีนครบ เพื่อให้สามารถเข้าใช้บริการสถานที่สาธารณะได้ โดยกล่าวว่า เรื่องดังกล่าว “ไม่ใข่การจำกัดเสรีภาพ” แต่ “เป็นการรักษาอิสรภาพให้กับแต่ละบุคคล”

เด็กหญิงชาวออสเตรียคนหนึ่ง เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนแห่งหนึ่ง ในกรุงเวียนนา

อย่างไรก็ตาม นานาประเทศในยุโรปไม่ได้ประกาศบังคับฉีดวัคซีนโดยตรง แต่ใช้มาตรการกดดันทางอ้อม ด้วยการไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน ใช้บริการสถานที่หลายประเภท ด้านนายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ ชาลเลนแบร์ก ผู้นำออสเตรีย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครบตามเงื่อนไขของวัคซีนแต่ละแบบ ถือว่ามีผลผูกพันตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2565.

เครดิตภาพ : AP