เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ศูนย์บริการประชาชน บช.สอท. น.ส.เจนนี่ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ผู้ช่วยเภสัชกร พร้อมนายดำรงค์ บุญประครอง ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนประจำศูนย์ 5 ซี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ช่วยติดตามตัวแม่ค้าบอนสี มาดำเนินคดีภายหลังสั่งเหง้าบอนหูช้างด่างเหลืองมาปลูก แต่เมื่อเริ่มโตกลับเป็นบอนกระดาษด่างขาวธรรมดา

น.ส.เจนนี่ ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนศึกษาการเลี้ยงบอนมานานกว่า 1 ปี กว่าจะตัดสินใจเรื่มเลี้ยงช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา โดยเริ่มซื้อจากในเพจแห่งหนึ่ง กระทั่งช่วงที่มีคนเริ่มมาปลูกบอนหูช้างด่างเหลือง ตนก็ได้สั่งซื้อเหง้าบอนหูช้างด่างเหลืองจากแม่ค้ารายนี้ ในราคา 3-6 พันบาท ซึ่งถูกกว่าเจ้าอื่นที่ขายในราคา 5-8 พันบาท โดยแม่ค้ารายนี้รับประกันว่าถ้าซื้อแล้วไม่ใช่บอนหูช้างด่างเหลือง ก็ยินดีจะคืนเงิน

“ปรากฏว่าเลี้ยงไปเลี้ยงมาจนบอนเจริญเติบโต แต่ไม่ได้เป็นบอนหูช้างด่างเหลืองตามที่ตกลงไว้ จึงติดต่อแม่ค้ารายนี้เพื่อให้คืนเงินตามข้อตกลง ซึ่งแม่ค้าก็มีการส่งเหง้าบอนชุดใหม่มาให้ เมื่อโตก็ไม่ใช่บอนหูช้างด่างเหลืองเช่นเดิม ต่อมาทางร้านระบุว่าไม่อยากส่งให้แล้ว จึงมีการตกลงจะโอนเงินคืนให้บางส่วน แต่ในที่สุดก็ไม่คืนให้เต็มจำนวน เมื่อตรวจสอบตามเพจต่างๆ ก็พบว่ามีผู้เสียหายเกือบ 40 คน ที่ถูกหลอกขายแบบตนเอง มูลค่าความเสียหายกว่า 4 แสนบาท ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้แจ้งความไว้กับตำรวจท้องที่แล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า” ผู้ช่วยเภสัชกรสาว กล่าว

น.ส.เจนนี่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงนี้มีกระแสการซื้อขายบอนสีราคาแพงๆ จึงทำให้มีผู้สนใจหันมาเลี้ยงเป็นจำนวนมาก ทำให้มีมิจฉาชีพแฝงตัวมาหลอกขายในเพจกลุ่มคนรักบอนสีมากขึ้นด้วย อยากฝากเตือนถึงผู้ที่มีความสนใจเลี้ยงบอนสี ควรตรวจสอบผู้ค้าให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกันมิจฉาชีพมาหลอกลวง.