จากกรณีที่ตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย ว่ามีคนไทยถูกหลอกลวงและบังคับให้ค้าประเวณีที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และได้ประสานงานร่วมกับหน่วยราชการไทยที่เกี่ยวข้องและทางการดูไบเข้าให้ความช่วยเหลือพาตัวกลับประเทศ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนศูนย์บัญชาการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน นางภิญญา จำรูญศาสตร์ ผู้อำนวยการกองต่อต้านการค้ามนุษย์ และเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน ศพดส.ตร. ร่วมแถลงข่าวจับกุม นางวีณา เพิ่งเจริญ อายุ 40 ปี น.ส.รัตนกร แก้วจัตุรัส อายุ 44 ปี น.ส.จันทร์จิรา วงษ์ตัน อายุ 33 ปี น.ส.ปภัฏชมณ ศรีสว่าง อายุ 37 ปี และ น.ส.ปาลิดา เจนกาล อายุ 52 ปี ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์” หลังขยายผลจับกุมเครือข่ายหลอกลวงคนไทยไปบังคับค้าประเวณีที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตำรวจได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีผ่านช่องทางออนไลน์ จึงได้ประสานงานร่วมกับสำนักงานความมั่นคงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสามารถช่วยเหลือกลับมาอย่างปลอดภัยจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังจับกุม น.ส.รัศมี ทาทอง อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาเป็นแม่เล้าในเครือข่ายดังกล่าว และถูกหมายแดงจากตำรวจสากล ขณะนี้ได้รับโทษทางกฎหมายอยู่ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอยู่ระหว่างรอส่งตัวมารับโทษต่อที่ประเทศไทย ซึ่งจากการขยายผลเครือข่ายก็สามารถจับกุมผู้กระทำผิดเพิ่มได้ 5 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า ตำรวจมีหลักฐานว่า กลุ่มนี้มีพฤติการณ์​เป็นนายหน้าหลอกลวงคนไทยชักชวนให้ไปทำงานในต่างประเทศ โดยอ้างค่าตอบแทนที่สูงเพื่อให้เหยื่อสนใจและยินยอมเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ เมื่อเดินทางไปถึงกลับไม่พบได้ทำงานตามที่ตกลงกันไว้แต่ถูกบังคับให้ค้าประเวณีในสถานที่ที่ตั้งร้านนวดบังหน้า ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมา พบมีคนไทยถูกหลอกลวงไปทำงานค้าประเวณีที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศไทยมากถึง 300-400 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกหลอกให้ไปทำงานร้านนวด แต่ถูกบังคับให้ค้าประเวณีต้องรับแขกมากถึง 7 คนต่อวัน

“ตำรวจพบว่าสามเมืองหลักในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คือ อัจมาน ดูไบ และรัฐราสอัลไคมาห์ ยังเป็นเมืองหลักที่มักมีคนไทยถูกหลอกไปบังคับค้าประเวณีจำนวนมาก โดยได้ค่านายหน้า 35,000-50,000 บาท ซึ่งแนวทางจากนี้ไปตำรวจจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการหลอกลวงคนไทยไปทำงานค้าประเวณี ซึ่งพบว่ายังมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานยังประเทศเกาหลีใต้และกัมพูชาอีกด้วย” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ขอฝากถึงบุคคลที่ยังกระทำความผิดในลักษณะนี้ ขอให้หยุด มิฉะนั้นจะถูกจับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ไม่เกินสัปดาห์นี้ถึงจะรู้ผล และหากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะไม่มีการปกป้อง พร้อมดำเนินคดีทันทีไม่มีข้อยกเว้น