จากกรณี นายตี๋ พ่อค้ารับซื้อ-ขายเสื้อวินเทจ และแฟนสาว เดินทางไปทวงถามหาเสื้อที่สั่งซื้อจากคู่กรณีคือ นายดำและน.ส.หญิง แต่กลับถูกญาติและพวกของ นายดำและน.ส.หญิง พาพวกมารุมทำร้ายร่างกาย จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด กลายเป็นข่าวครึกโครมในโลกออนไลน์ ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ในรายการโหนกระแส โดยพิธีกร “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้เชิญ นายตี๋ และ น.ส.แนน มาพูดคุย ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทั้งสองเล่าว่า ก่อนจะมีเรื่องกันนั้นได้ติดต่อซื้อขายเสื้อกับ นายดำ ในราคาหลักพัน มีการโอนเงินไปยังบัญชีของ น.ส.หญิง ที่เป็นแฟนสาวของ นายดำ ทำให้มีการไว้วางใจกันในช่วงหนึ่ง จนกระทั่งมีการซื้อขายเสื้อหลายตัวในราคารวมทั้งสิ้น 12,000 บาท ซึ่ง นายตี๋ ได้โอนเงินไปให้เช่นเคย แต่คราวนี้อีกฝ่ายไม่ยอมส่งเสื้อมาให้ แม้จะพยายามติดต่อไปแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง สุดท้ายต้องไปแจ้งความเอาผิดฐานฉ้อโกง ขณะที่นายดำ บล็อกการติดต่อทุกช่องทาง

อย่างไรก็ตาม นายตี๋ ยังต้องการเงินจำนวนดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้ไปยืมเงินเพื่อนมาลงทุน และเมื่อถึงเวลาต้องคืนเงิน ปรากฏว่าขาดอีก 14,000 บาท ทำให้รู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก นายตี๋จึงเข้าไปโพสต์หาที่อยู่ของ นายดำ จากกลุ่มซื้อขายเสื้อว่า มีใครรู้จักบ้าง ปรากฏว่ามีคนแจ้งเบาะแสว่าถูกโกงไปเช่นเดียวกันก่อนจะให้ที่อยู่ของ นายดำ มาด้วย ทำให้นายตี๋พา น.ส.แนน แฟนสาวไปทวงถามหาเสื้อ โดยมีการเจรจากับป้าของ น.ส.หญิงก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่เจอ นายดำและน.ส.หญิง แต่อย่างใด

ระหว่างนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากออกมาปิดล้อม ทำให้ฝ่ายนายตี๋รู้สึกไม่ปลอดภัยแจ้งตำรวจมาช่วยเหลือ แต่พอพาตัวออกมากำลังจะขึ้นรถ ฝ่ายนายตี๋ก็โดนกลุ่มวัยรุ่นวิ่งไล่รุมทำร้าย แม้ตำรวจจะพยายามห้ามปรามยิงปืนขึ้นฟ้าให้ทุกคนหยุด แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่ฟังวิ่งไล่ นายตี๋ จนต้องหนีเข้าไปหลบอยู่ในบ้านพลเมืองดีรายหนึ่ง ซึ่งพลเมืองดีรายนี้ ก็โดนวัยรุ่นใช้มีดแทงคอและลำตัวอีกด้วย โชคยังดีที่คมมีดไม่เข้าเนื้อ บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ส่วน น.ส.แนน ที่ไลฟ์สดเพื่อเป็นหลักฐาน ก็ถูก น.ส.นะ ที่เป็นญาติของนายดำ เข้ามาจิกหัวตบตีและเตะ ทำร้ายร่างกายต่อหน้าต่อตาตำรวจแบบไม่ยั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาห้ามและ พาตัว น.ส.แนนขึ้นรถไปโรงพัก ส่วน นายตี๋ ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ เดินทางมาให้การที่โรงพักได้เช่นกัน

เรื่องยังไม่จบเท่านี้ เวลาผ่านไปไม่นาน ปรากฏว่ามีชายวัยกลางคนรายหนึ่งใช้ชื่อ “เสี่ยใหญ่” โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ลาราชการเรียบร้อย สภาพเสื้อตัวละ 70 บาท แหมๆๆๆ จะมาเอาเงินหลานกูเป็นหมื่น ไอพวก 18 มงกุฎเดะเจอกันยาว ๆ”, “ว่าต้องกลับกรุงเทพฯไปหาหลาน ๆ หน่อยละ อยากเจอพวกวัยรุ่นกรุงเทพฯจริง ๆ เด็กสมัยนี้กับผู้ใหญ่มันก็ปากเก่งใส่…” , “…คนจริงไม่พูดเยอะ จากพัทยาไปกทม. ไปรอฟ้องหมิ่นประมาทแล้วรับเงินหมานๆ สบายใจดีกว่า ใครจะเห่าก็เชิญ แคปไว้หมดแล้ว รอหมายเรียกเรียงตัวได้เลย…”

นอกจากนี้ยังมีการแชตคุยกับหลานสาวคนหนึ่ง โดยฝ่ายหลานสาวอ้างว่า นายตี๋และแฟนสาว ยกพวกไปบุกบ้าน กล่าวหาว่า นายดำและน.ส.หญิง ไปโกงเสื้อทั้งที่สภาพเสื้อตัวละ 20-30 บาท แต่กลับมาคิดตัวละเป็นหมื่น ทำให้ฝ่าย “เสี่ยใหญ่” เกิดความไม่พอใจ โพสต์กลับมาว่า “…อ้าวมันทำกันแบบนี้เรายอมไม่ได้นะ ต้องเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด เดี๋ยวลงไปเอง ลุงมีทนายส่วนตัว ใครบุกรุกยิงได้เลย ลุงรับผิดชอบเอง…” พอ นายตี๋และ น.ส.แนน ทราบเรื่องก็รู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะอีกฝ่ายโพสต์ข่มขู่ว่าให้ยิงได้เลย

อย่างไรก็ตาม ลุงใหญ่ หรือ “เสี่ยใหญ่” ยังโพสต์ข้อความตัดต่อภาพในรายการโหนกระแส ระบุว่า “….สปอยรายการครับ งานนี้มีคนวืดแน่ ๆ ขอบคุณพี่หนุ่มมากๆครับ ที่ให้โอกาสผมพูดแทนหลานๆผู้บริสุทธิ์…” ทำให้ฝ่าย หนุ่ม กรรชัย ได้กล่าวท้าทายให้ “เสี่ยใหญ่” มาออกรายการว่า “…มาซิลุงใหญ่รออยู่ มาจริง ๆ นะ ถ้าแน่จริงอย่าเอาแค่ลงโพสต์นะ ถ้าแน่จริงต้องมานะ…”

ด้าน นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง กล่าวว่า เรื่องนี้มีความผิดปรากฏชัดเจน มีการกระทำผิดหลายกรรมและหลายข้อหา แต่ก็อยู่ที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างไร ขณะที่แฟนของนายตี๋ ระบุด้วยว่า มีคนแจ้งมาว่าเด็กวัยรุ่นที่ก่อเหตุนั้น ส่วนใหญ่ทำงานเป็น “นิ้วตำรวจ” หรือเป็น “สายยาเสพติด” ที่คอยรายงานว่าใครขายยา ส่งยาอย่างไรบ้าง จึงทำให้เชื่อว่าทางตำรวจอาจไม่ได้เอาเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ก็เป็นได้ นายเกิดผล จึงกล่าวเสริมว่า แบบนี้ตำรวจโดนหยามแล้ว เพราะตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ถึง 3 นาย แต่กลับห้ามสถานการณ์ไม่ได้ ตำรวจไม่ควรยอมในเรื่องนี้ ต้องไปสอบสวนดำเนินคดีให้หมด คดีทำร้ายร่างกายต้องจับให้หมด คดีฉ้อโกงก็ต้องรีบอายัดเงินในบัญชีให้หมด

ขณะที่แม่ของ น.ส.หญิง เปิดเผยทางรายการว่า ตนไม่รู้เลยว่าลูกสาวมีพฤติกรรมแบบนี้ เพราะลูกสาวไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ไปอยู่กับดำแฟนหนุ่ม เพิ่งจะรู้เรื่องก็ตอนผู้เสียหายมาหา ตอนนี้ก็ยังติดต่อหญิงไม่ได้เลย ที่อยู่ของดำก็ไม่รู้เช่นกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์มาทวงถามหาตัวลูกสาวและนายดำ แต่ตอนนั้นแม่ติดต่อได้ ทั้งสองคุยกันแล้วเรื่องก็เลยจบ ส่วนที่ว่า นายดำ มีลูกพี่หรือไม่แม่ไม่ทราบ แต่ผู้เสียหายที่มาคุยครั้งก่อนบอกว่ามี
สำหรับน้องหญิงตอนนี้อายุ 20 ปีแล้ว.