เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ รับแจ้งมีเหตุยิงกันเสียชีวิตที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมนายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียนจังหวัดอุบลราชธานี จอดอยู่บริเวณหน้าเสาธง บริเวณเบาะหน้าฝั่งคนขับ พบร่าง น.ส.เชาวนีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ชาวบ้านเขวา หมู่ที่ 4 ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน จำนวน 5 นัด เสียชีวิตคาที่

ห่างออกไปพบร่าง พลอาสาสมัคร ประยงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี สังกัด พัน สห.สน.บก.บก.ทท. เป็นสามีของผู้ตาย ชาวบ้านกระแชง หมู่ที่ 17 ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ ใช้อาวุธปืนชนิดเดียวกันยิงเข้ากลางหน้าผากทะลุศีรษะ จำนวน 1 นัด นอนเสียชีวิตภายในศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ ข้างกายพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายทั้ง 2 คน เพิ่งจดทะเบียนสมรสกันที่เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานตามประเพณี ซึ่งมีแผนจะจัดพิธีแต่งงานในเร็วๆ นี้ ต่อมาฝ่ายหญิงขอหย่าร้าง แต่ฝ่ายชายไม่ยอมหย่า สุดท้ายตกลงนัดพบกันหน้าอำเภอเพื่อจดทะเบียนหย่า เมื่อมาถึงหน้าห้องฝ่ายทะเบียนภายในที่ว่าการอำเภอ ปรากฏว่าคิวยาวต้องรอนาน ทั้งคู่จึงมีปากเสียงทะเลาะกันเสียงดังไปมา จากนั้นฝ่ายหญิงทนรอไม่ไหวจึงตัดสินใจกลับ ก่อนเดินออกจากที่ว่าการอำเภอมาขึ้นรถ แต่ฝ่ายชายบอกไม่ให้กลับ จากนั้นฝ่ายชายได้เดินไปที่รถยนต์ของตนเอง พร้อมกับหยิบอาวุธปืนที่พกมาด้วย เดินมาเคาะประตูรถยนต์ให้ฝ่ายหญิงเปิด แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมเปิด จึงชักปืนที่พกมาด้วยกราดยิงประมาณ 5-8 นัด ทะลุกระจกเจาะร่างดับคาที่

จากนั้นฝ่ายชายได้ขับรถหนีไปจอดที่หน้าศาลหลักเมือง พร้อมถืออาวุธปืนเดินขึ้นไปบนศาลหลักเมืองและกราบไหว้ศาล ก่อนที่จะลั่นไกฆ่าตัวตายตามดังกล่าว ส่วนสาเหตุยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากการหึงหวงหรือไม่ หรือเกิดจากการไม่เข้าใจกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.