สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ว่า จากการประเมินขององค์กรระหว่างประเทศ ในแต่ละปี มีสุนัขถูกบริโภคในเวียดนาม ประมาณ 5 ล้านตัว สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน ประชาชนบางส่วนมีความเชื่อว่า การบริโภคเนื้อสุนัข จะช่วยขับไล่สิ่งอัปมงคลออกจากร่างกาย

ผู้บริหารเทศบาลเมืองฮอยอัน เมืองท่าการค้าตั้งแต่โบราณ และเมืองมรดกโลก ในจังหวัดกว่างนาม ลงนามในข้อตกลงกับกลุ่มสิทธิสัตว์ โฟร์ พอว์ อินเตอร์เนชั่นแนล (Four Paws International) ให้คำมั่นว่า จะค่อยๆ ลดจนหมด การขายและการบริโภค เนื้อสุนัขและเนื้อแมว ในเขตเมืองฮอยอัน

เหวียน เถ่อ ฮุง รองนายกเทศมนตรีเมืองฮอยอัน กล่าวว่า เมืองฮอยอันต้องการส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ โดยผ่านโครงการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้า ลดละเลิกการค้าสุนัขและแมว และทำให้เมืองฮอยอันเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวชั้นเยี่ยม ส่วนจูลี่ แซนเดอร์ ตัวแทนกลุ่มโฟร์ พอว์ อินเตอร์เนชั่นแนล แสดงความชื่นชมต่อการตัดสินใจของทางการเมืองฮอยอัน และหวังว่าจะเป็นต้นแบบตัวอย่าง สำหรับเมืองอื่นๆ ของเวียดนาม

การสุ่มสำรวจทั่วเวียดนาม โดยแนวร่วมองค์กรสิทธิสัตว์ ในปีนี้ พบว่า มีเพียงแค่ 6.3% ของชาวเวียดนาม 600 คน ที่ตอบคำถาม บริโภคเนื้อสุนัขและเนื้อแมว โดย 88% สนับสนุนให้รัฐบาลออกกฎหมายห้าม

การบริโภคเนื้อสุนัขและเนื้อแมว กำลังลดลงเรื่อยๆ ในเวียดนาม ขณะที่ประชาชนมีฐานะทางเศรษฐกิจดีขึ้น และกลุ่มคนร่ำรวยนิยมเลี้ยงสัตว์ทั้ง 2 ชนิดเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน แต่เนื้อสุนัขยังมีขายอยู่ทั่วไป และหาซื้อได้ง่าย ในเมืองหลวงกรุงฮานอย ท่ามกลางความวิตกของกลุ่มปกป้องสิทธิสัตว์ ชาวกรุงฮานอยรายหนึ่ง เผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการห้ามกินเนื้อสุนัข เพราะมันกลายเป็นวัฒนธรรมของชาวเวียดนามไปแล้ว

ปี 2561 ทางการกรุงฮานอยได้รณรงค์ เรียกร้องประชาชนให้เลิกบริโภคเนื้อสุนัข โดยระบุว่า มันเป็นการทำลายภาพลักษณ์ชื่อเสียงของเมือง และยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต.

เครดิตภาพ – Reuters, Soi Dog Foundation , FOUR PAWS International
เครดิตคลิป – Travel thirsty Vietnam