เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่กรมราชทัณฑ์ นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยเหตุผู้ต้องขังชาย จำนวน 9 รายได้ร่วมกันหลบหนีจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย จ.นครปฐมว่า กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 10 ธ.ค. 64 เวลาประมาณ 01.30 น. มีผู้ต้องขังชาย 9 ราย ได้ร่วมกันหลบหนีจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย ซึ่งเป็นสถานที่แยกกักโรคสำหรับผู้ต้องขังรับใหม่จากภายนอก ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ขณะนี้สามารถจับกุมได้แล้วจำนวน 4 ราย ยังคงหลบหนีอีก 5 ราย คือ นายวัชระ มะโนมั่น นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ นายพานิช บัวศร นายจำรูญ คล้ายสุบรรณ และนายบำรุง วงศ์สว่าง จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เวรรักษาการณ์สันนิษฐานว่าผู้ต้องขังทั้ง 9 ราย ได้ใช้อุปกรณ์เลื่อยลูกกรงห้องขัง และปีนออกทางกำแพงกองเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 จากนั้นจึงหลบหนีออกไปตามเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งเรือนจำกลางนครปฐมได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ของเรือนจำพร้อมประสานขอรับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่เรือนจำเขต 7 เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจในพื้นที่และจากหน่วยงานภายนอกเพื่อร่วมติดตามจับกุมแล้วกว่า 184 นาย

นายณรงค์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวผู้ต้องขังที่ยังหลบหนีอีก 5 รายให้ได้โดยเร็ว โดยได้สั่งการให้เร่งติดตามภายใน 48 ชั่วโมง หากยังไม่สามารถจับกุมกลับมาได้ ต้องมีผู้รับผิดชอบจากการหลบหนีของผู้ต้องขัง พร้อมดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง และผู้ต้องขังที่หลบหนีระหว่างคุมขังนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนี หรือให้การสนับสนุนในการหลบหนี หรือให้ที่พักอาศัยจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่เรือนจำกลางนครปฐม หมายเลขโทรศัพท์ 034-262-076, 034-261-368, และ 034-261-251 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์ ได้แก้ไขปัญหาผู้ต้องขังหลบหนีจากเรือนจำชั่วคราวที่ใช้เป็นห้องกักโรคด้านนอกเรือนจำ โดยสั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศตรวจสอบโครงสร้างทางกายภาพของเรือนจำชั่วคราวและอาคารห้องกักโรคว่ามีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอหรือไม่ หากไม่มีความแข็งแรงเพียงพอ ให้พิจารณาใช้ห้องแยกกักโรคภายในเรือนจำซึ่งมีโครงสร้างของห้องคุมขังและกำแพงที่แน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต ขณะเดียวกันทางเรือนจำจะต้องมอบหมายผู้อำนวยการส่วนหรือหัวหน้าฝ่ายควบคุมไปปฏิบัติการประจำและให้มีระบบรายงานตรวจสอบตามลำดับชั้น และให้เจ้าหน้าที่ตรวจตรา เวรยามทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนให้ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอก เช่นตำรวจในการร่วมดำเนินงานตรวจด้วย.