“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะพบ “ดาวทอง” เวียดนาม ในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” วันที่ 23 ธ.ค.64 เวลาไทย 19.30 น. ช่อง 7 HD และ AIS PLAY ยิงสด

การแถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. มาโน โพลกิง กุนซือใหญ่ กล่าวว่า เป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ของภูมิภาคนี้ เพราะเวียดนามเป็นแชมป์เก่า ส่วนไทยเป็นแชมป์มากสุด (5 สมัย) และแชมป์ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ (2014, 2016) เป็นเกมพิเศษที่ทุกคนอยากชมและทีมไทยเองก็ตื่นเต้น มั่นใจและพร้อมแล้ว เชื่อมั่นในคุณภาพทั้งทีม ไม่มีผู้เล่นชุด A หรือชุด B ในเกมนัดก่อนที่ชนะสิงคโปร์ ก็ส่งผู้เล่นที่คิดว่าจะชนะลงสนามไป ก็ทำให้ตัวเองเจองานยากในการเลือกตัวผู้เล่นด้วย แต่ก็หมายถึงว่าไทยมีผู้เล่นหลากหลายให้ใช้เช่นกัน

เมื่อถามว่า การที่เคยทำงานที่เวียดนาม (โฮจิมินห์ ซิตี) ช่วยอะไรได้บ้าง มาโน กล่าวว่า ตนไปทำเพียงระยะเวลาสั้นๆ อาจจะไม่ได้ช่วยเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้เห็นว่าพวกเวียดนามมีดีแค่ไหนและรู้จักผู้เล่นบางคน เวียดนามเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ซ้อมกันมา 5 เดือน มีความเข้าใจกันอย่างมาก แต่ถึงไทยจะรวมตัวกันน้อย ก็พอใจกับสิ่งที่ทำร่วมกันมา มีผลงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนสถิติที่ไทย ไม่เคยเอาชนะเวียดนามภายใต้การคุมทีมของปาร์ค ฮัง ซอ มาโน กล่าวว่า “ในชีวิตทุกอย่างย่อมมีครั้งแรกเสมอ และทุกคนพร้อมจะสู้เพื่อเก็บชัยชนะครั้งแรกให้ได้”

มาโน กล่าวเสริมว่า เวียดนามมีผู้เล่นที่ดีทั้งชุด มีเกมรับแน่นยังไม่เสียประตูแต่ไทยเองก็ยิงได้ทุกนัดเช่นกัน แน่นอนว่ายังคงสไตล์การบุกเหมือนเดิม ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเปลี่ยนแนวทางการเล่น เวียดนามเปลี่ยนจังหวะรับเป็นรุกได้ดีก็จะระวัง มีผู้เล่นที่สามารถรับมือได้

“ทั้ง 2 ทีมถือว่ากดดันหมด เวียดนามก็อยากได้แชมป์อีกครั้ง ส่วนไทยเองก็ต้องการเป็นแชมป์และเป็นเจ้าของสถิติแชมป์สูงสุด”

ขณะที่ “แชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย กล่าววว่า มาถึงตอนนี้ทีมที่เข้ารอบมาทุกทีมมีคุณภาพหมด จะเจอกับเวียดนามในรอบนี้หรือรอบชิงชนะเลิศก็ไม่ต่างกัน พวกเรามุ่งมั่นที่จะไปถึงแชมป์ให้ได้ จะเอาชัยชนะไปฝากคนไทยไม่ว่าเจอกับทีมใดก็ตาม

ส่วนสถิติที่ไม่ดีกับเวียดนามนั้น ศิวรักษ์ กล่าวว่า แต่ละเกมก็ไม่เหมือนกัน เชื่อว่าเกมนี้จะสนุกและเราจะทำให้เต็มที่