เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ศาลได้อ่านคำพิพากษาในคดีแดงเลขที่ ทป. 170/2564 ซึ่งมี น.ส.นันทนัช เอื้อศิริทรัพย์ และบริษัท รวยสบายสบาย จำกัด เจ้าของแบรนด์ชานมไข่มุกเสือพ่นไฟ Fire Tiger เป็นโจทก์ร่วมที่ 1 และ 2 ร่วมฟ้อง นายนิพนธ์ สุริยล้ำเลิศ พวกรวม 2 คน เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์เครื่องดื่มชานมไข่มุกหมีพ่นไฟ The Fire Bear เป็นจำเลย ในฐานความผิดละเมิดเครื่องหมายการค้าตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 พร้อมขอศาลให้สั่งห้ามไม่ให้จำเลยกระทำการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการของโจทก์ต่อไป ให้ยุติการใช้เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการที่เหมือนคล้ายกับโจทก์

โดยคดีนี้โจทก์ได้ยื่นฟ้อง ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2563 กล่าวหาว่าบุคคลทั้งสองมีการใช้เครื่องหมายการค้า เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และมีการขายแฟรนไชส์สินค้าดังกล่าว ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยใช้คำว่า หมีพ่นไฟ และ The Fire Bear เป็นชื่อร้านค้า สินค้าและบริการ กิจการและเป็นชื่อชานมไข่มุก รวมถึงการใช้ประติมากรรมหัวหมีพ่นไฟ ที่มีลักษณะอ้าปากเป็นช่องส่งสินค้าชานมไข่มุกให้แก่ลูกค้า ซึ่งมีลักษณะเหมือนคล้ายกับธุรกิจของโจทก์ ย่อมทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่า เป็นร้านที่มีเจ้าของเดียวกัน หรือสินค้ามาจากแหล่งเดียวกัน ถือเป็นการลวงให้ประชาชนเชื่อว่า สินค้าหรือการค้าของจำเลยเป็นของโจทก์หรือเกี่ยวข้องกับโจทก์ จึงถือเป็นการกระทำละเมิด ฐานลวงขาย

พิพากษาว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองมีความผิดฐานลวงขาย ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เป็นจำนวนเงิน 10,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายนับแต่วันฟ้อง รวมถึงชำระค่าเสียหาย เดือนละ 100,000 บาท นับแต่วันฟ้อง จนกว่าจำเลยทั้งสองจะยุติการกระทำละเมิดดังกล่าว

ภายหลังฟังคำพิพากษา นายสืบสิริ ทวีผล ทนายความโจทก์ เปิดเผยว่า คดีนี้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายหลายส่วน โดยเฉพาะความคุ้มครองเกี่ยวกับหลักกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่เรียกว่า Trade Dress หรือ ความคุ้มครองการตกแต่งรูปลักษณ์ของสินค้าและบริการ ซึ่งศาลพิพากษาว่าการใช้เครื่องหมายการค้า ชื่อ การบริการ และการส่งสินค้าให้ลูกค้าผ่านประติมากรรมหัวสัตว์เป็นการละเมิด ฐานลวงขาย ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 10 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นค่าเสียหายในคดีเครื่องหมายการค้าที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ทั้งนี้ นอกจากคดีของศาลทรัพย์สินฯแล้วโจทก์ยังได้ยื่นฟ้องจำเลย เป็นคดีอาญา โดยศาลเลื่อนไต่สวนมูลฟ้องไปเดือน ก.พ.65

ด้าน น.ส.นันทนัช กล่าวว่า สินค้าในเครือทุกแบรนด์ของเรา เช่น เสือพ่นไฟ nice to meet you หรือ Mil Toast House ได้จดเครื่องหมายการค้าไว้แล้ว ซึ่งคดีนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้ผู้ที่ทำธุรกิจได้ตระหนักถึงทรัพย์สินทางปัญญาให้มากขึ้นและอยากให้เป็นเคสตัวอย่างให้คนเห็นว่าการทำธุรกิจ หรือการได้แรงบันดาลใจและการลอกเลียนแบบแตกต่างกัน การทำธุรกิจควรให้เกียรติกัน ไม่ใช่ลอกโดยจงใจหรือตั้งใจ

สำหรับแบรนด์ชานมไข่มุก Fire Tiger เสือฟนไฟ ถือเป็นแบรนด์ชานมไข่มุกสัญชาติไทยแท้ จากการปลุกปั้นของคนไทยทุกขั้นตอน เปิดสาขาแรกที่สาขาสยามสแควร์ ซ.3 เริ่มเปิดให้บริการ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2561 โดยลักษณะชานมไขมุกแบบเสือพ่นไฟมีชื่อเสียงโด่งดัง คือ น้ำตาลไหม้เป็นตังเมแข็ง ท็อปปิ้ง

บนครีมที่มีความมันๆ ไม่หวาน กลิ่นชานมรสชาติหอมชานมอ่อนๆ และน้ำตาลไหม้ ตลอดจนเอกลักษณ์ จากรูปประติมากรรมหัวเสือ ที่คิดค้นขึ้นเป็นรายแรก เพื่อส่งมอบเครื่องดื่มให้กับลูกค้าผ่านทางปากเสื้อ จนเป็นที่ถูกใจของชาวไทยและต่างชาติ กระทั่ง ในปัจจุบัน แบรนด์ชานมไข่มุก Fire Tiger เสือพ่นไฟ มี 16 สาขาทั่วประเทศ และอีก 13 สาขาในต่างประเทศทั่วโลก ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และเตรียมขยายสาขาใหม่ที่สหรัฐอเมริกา ในต้นปี 2565 ในขณะที่แบรนด์ชานมไข่มุก The Fire Bear หมีพ่นไฟ มีจำนวนสาขามากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ตั้งแต่เดือน ส.ค. 62