เมื่อวันที่ 16 ก.ค. นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เปิดเผยว่า ตามที่ราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 12 ก.ค. 2564 ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง ชุดตรวจและน้ำยาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ covid-19 แบบตรวจหา Antigen ด้วยตนเอง หรือ (Covid-19 Antigen test self-test kits) พ. ศ. 2564 ระบุว่า เพื่อให้มีการเข้าถึงการตรวจคัดกรองที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ covid-19 ด้วยตนเองและจะทำให้ประชาชนได้รับทราบว่าตนเองติดเชื้อโรค covid-19 หรือไม่ ตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก ที่จะนำไปสู่กระบวนการตรวจวินิจฉัยยืนยันรักษาและป้องกันที่เหมาะสมได้เร็ว ป้องกันการแพร่เชื้อให้บุคคลอื่น ลดการติดเชื้อโรค covid-19 รายใหม่ รวมถึงได้รับการบริการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเป็นมาตรการนำไปสู่การควบคุมการระบาดของโรค covid-19 ได้นั้น โดยจุดมุ่งหมายสำคัญคือต้องการให้ประชาชนสามารถนำอุปกรณ์ชุดตรวจ ดังกล่าวไปใช้เพื่อตรวจหาเชื้อโควิดได้ด้วยตนเอง

นพ.เฉลิมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตอันใกล้นี้อุปกรณ์ชุดตรวจ Antigen test kits จะมีจำหน่ายตามร้านขายยาแผนปัจจุบัน และสถานพยาบาลของรัฐ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปซื้อมาตรวจด้วยตนเองได้ โดยอุปกรณ์ชุดตรวจจะประกอบด้วย 3 อย่าง คือ ไม้ก้านพันสำลีสำหรับแยงไปในรูจมูก ชุดแปลผล และขวดใส่น้ำยาเคมี มีขั้นตอนดังนี้ 1. ล้างมือให้สะอาดเตรียมอุปกรณ์ชุดตรวจและแก้วสะอาด 1 ใบ 2.นำก้านไม้ที่พันสำลี ใส่เข้าไปในโพรงจมูก ลึกประมาณ 10 ซม.หรือ เท่าที่จะใส่ไม้เข้าไปได้ 3. หมุนวน 5-6 รอบ เพื่อให้ได้สารคัดหลั่งในโพรงจมูก 4. นำสารคัดหลั่ง ในก้านสำลี มาผสมในขวดที่มีน้ำยาเคมี โดยหมุนวน 4-5 รอบ 5. เขย่าเบา ๆ ทิ้งไว้ 1-2 นาที และ 6. นำน้ำยาที่ได้ไปหยดลงในแผ่นชุดตรวจทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หากน้ำยาวิ่งไปที่อยู่ที่ ตัว C แสดงผลเป็นลบ ไม่ติดเชื้อโควิด แต่ถ้าน้ำยาวิ่งไปที่ ตัว C และ T แสดงผลเป็นบวก ติดเชื้อโควิด

“ชุดตรวจฯ เป็นอุปกรณ์ตรวจเพื่อให้ประชาชนตรวจด้วยตนเองและเป็นการตรวจเบื้องต้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากพบผลเป็นบวกต้องนำไปตรวจที่โรงพยาบาลของรัฐ อีกครั้ง กับระบบ RT-PCR เพื่อตรวจสอบและยืนยันผลที่ถูกต้อง และการตรวจด้วยชุดอุปกรณ์ดังกล่าว เป็นการตรวจเบื้องต้นเพื่อด้วยตนเองไม่สามารถนำผลที่ได้จากการตรวจด้วยตัวเองไปแสดงหรือใช้เป็นหลักฐานในการเดินทาง ทั้งนี้เอกสารที่จะใช้แสดงผลในการเดินทางจะต้องเป็นเอกสารที่ได้รับรองจากสถานพยาบาลหรือคลินิกเท่านั้น” ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าว