จากกรณีที่ก่อนหน้านี้เกิดกระแสดราม่าร้อนจนเกิดแฮชแท็ก #พี่ตูนวิ่งทำไม ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ เมื่อมีกระแสข่าวว่า ตูน บอดี้สแลม จะขอกลับมาทวงบัลลังก์งานวิ่งเพื่อสุขภาพเชิญชวนผู้มีใจกุศลร่วมวิ่งก้าวเพื่อน้องปีที่ 2 เวอร์ชวลรัน 109 คำขอบพระคุณเพื่อช่วยสนับสนุนน้องๆ ที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่ไม่มีทุนศึกษาต่อชั้นมัธยมปลาย หรือ สายอาชีพ จำนวน 109 คน จากนั้นไม่นานทีมงานมูลนิธิก้าวคนละก้าว ชี้แจง โครงการนี้ไม่ได้ให้ตูน หรือ ใครออกมาวิ่งเพื่อเรี่ยไรเงิน แต่เป็นลักษณะการชวนคนที่รักการวิ่ง ออกมาวิ่งเพื่อเก็บไมล์ที่บ้านกันเอง เป็นระยะเวลา 2 เดือน แล้วส่งผลให้ทีมงาน หากใครวิ่งครบ 109 กิโลเมตรก็จะมีรางวัลให้โดยนำค่าสมัครที่ได้นำไปสนับสนุนทุนการศึกษาของเด็กที่ขาดโอกาส แต่ก็ยังไม่วายถูกวิจารณ์อย่างร้อนแรงในโซเชียล

ล่าสุดสาว ก้อย รัชวิน ภรรยาของหนุ่มตูน ได้ออกมาอัพเดทรูปของโครงการที่เคยทำ พร้อมข้อความเล่าว่า “เราเริ่มทำโครงการก้าวเพื่อน้อง เมื่อปี 2563 ในช่วงที่สถานการณ์โควิดระบาดรอบแรก เนื่องจาก กสศ. (กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา) ได้ติดต่อมายังมูลนิธิก้าวคนละก้าว เพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับน้องๆ ที่ครอบครัวมีฐานะยากจนพิเศษและกำลังจะหลุดออกจากระบบการศึกษา กสศ.ต้องการให้เราช่วยเป็นกระบอกเสียงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและจัดทำกิจกรรมให้คนทั่วไปได้รับรู้ และได้มอบโอกาสทางการศึกษาคืนกลับไปให้พวกเค้า

พี่ตูนและทีมก้าวตระเวนไปตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วทุกภาคในประเทศไทย จากคำแนะนำของกสศ.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีฐานข้อมูลของนักเรียนที่ขาดแคลนโอกาสทั่วประเทศและดูแลเรื่องนี้โดยตรง ไปศึกษาพูดคุยกับนักเรียน คุณครู รวมไปถึงพ่อแม่ของเด็กเหล่านั้น เพื่อที่จะได้รับรู้ถึงความยากลำบากและเข้าใจปัญหาของเด็กเหล่านั้นและนำมาสื่อสารกับผู้คนได้อย่างถูกต้อง เราพบว่าไม่ใช่แค่เรื่องเรียนอย่างเดียวแต่คือทุกเรื่องในชีวิตของเค้า ทั้งทุนทรัพย์ในการดำเนินชีวิต ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง ค่ารักษาพยาบาลนั่นทำให้เรายิ่งรู้สึกว่าเราอยากส่งต่อโอกาส เหล่านี้ให้กับน้องๆเหล่านี้จริงๆ

เราจัดงานวิ่งเวอร์ชวลรัล แล้วนำค่าสมัคร​ รายได้จากการจำหน่ายของที่ระลึก ไปมอบเป็นทุนการศึกษาให้น้องๆที่ขาดแคลน โดย “ไม่หักค่าใช้จ่าย” ใดๆ ซึ่งในปีที่แล้วเราสามารถช่วยน้องๆ ได้ 109 คน โดยมาจากการรายได้ของการจัดงาน หารกับค่าใช้จ่ายของเด็ก 1 คนในการเรียนต่อ 3 ปี​ ทั้งค่าเทอม​ ค่าที่พัก​ ค่าเดินทาง​ ค่ารักษาพยาบาล​ ซึ่งประเมินการโดยผู้เชี่ยวชาญทางการศึกษาที่รวบรวมสถิติข้อมูลมานาน

ตลอดปีที่ผ่านมา ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้เราไม่สามารถเดินทางไปพบน้องๆ ได้ แต่สิ่งที่ก้อยเห็นคือ พี่ตูนและทีมก้าว ยังคงทำงานร่วมกับ กสศ.อย่างต่อเนื่อง ก้อยเห็นพี่ตูนประชุมออนไลน์วันละ 3-4 ชม.ทุกอาทิตย์ตอนที่ก้อยท้อง เพื่อเตรียมจัดทำโครงการก้าวเพื่อน้องครั้งที่ 2 นี้ ด้วยความ “รัก” และความ “ตั้งใจ” เพราะรู้ว่าการ “ให้โอกาส” ใครซักคนนั้น มีคุณค่ามากแค่ไหน ถึงแม้สิ่งนี้จะไม่ใช่หน้าที่ของพวกเราโดยตรง แต่ถ้าหากเราได้รับรู้ปัญหาและพอที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยได้บ้าง มันก็คงจะดีไม่น้อย เพราะหากรอก็คงมีเด็กอีกไม่รู้เท่าไรที่ต้องออกจากระบบการศึกษาไปอย่างน่าเสียดาย

ดูรายละเอียดโครงการทั้งหมดได้ทาง “เพจก้าว” นะคะ
เปิดรับสมัครด้วยความสมัครใจ #ก้อยสมัครแล้วค่ะ
ชวนทุกคนมาวิ่งออกกำลังกายและส่งต่อโอกาสให้น้องๆกัน
สุดท้ายนี้พี่ตูนไม่ได้ออกมาวิ่งยาวๆเหมือนที่คนเข้าใจผิดนะคะ ขอบคุณที่สละเวลาอ่านข้อความจนจบค่ะ

งานนี้เรียกว่าแฟนๆก็มาคอมเมนต์ในหลายแง่มุมทั้งยังเห็นด้วยกับโครงการนี้และมองว่าไม่ควรทำเพราะไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่น แต่ควรเป็นสิ่งที่ทางรัฐควรให้การสนับสนุน โดยที่ไม่ต้องร้องขออีกด้วย

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม rachwinwong