เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. ร่วมกับตัวแทนเจ้าหน้าที่ บก.ปทส. บก.รน. แถลงผลปฏิบัติการทลายเครือข่ายขบวนการฉ้อโกงบริษัทประกันภัย เสียหาย 20 ล้านบาท หลังนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 15 จุด ทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 16 ราย

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้มีกลุ่มบริษัทประกันภัยเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์ในการฉ้อโกงบริษัทประกันภัยเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งรูปแบบของผู้ต้องหากลุ่มนี้จะจัดฉากสร้างบาดแผลขึ้นมาเพื่อฉ้อโกงเงินประกันจากบริษัทประกันภัย โดยวิธีการจะเริ่มจากการชักชวนประชาชนให้เข้ามาร่วมขบวนการพร้อมทำข้อตกลงให้ค่าจ้างตามลักษณะบาดแผล ยกตัวอย่างเช่น หากได้รับบาดเจ็บนอนโรงพยาบาลจะได้รับเงิน คืนละ 3,000 บาท เมื่อมีผู้สนใจเข้าร่วมก็จะย้ายชื่อเข้ามาในบ้านที่จัดเตรียมไว้เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ จากนั้นก็จะให้ผู้สมัครใจเหล่านี้ไปเปิดบัญชีธนาคารพร้อมกับทำบัตรเอทีเอ็มก่อนยึดสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มเอาไว้ จากนั้นก็จะพาผู้สมัครใจเหล่านี้ไปทำประกันภัยกับบริษัทต่างๆ

เมื่อได้กรมธรรม์มาแล้วประมาณ 1-2 เดือน กลุ่มผู้ต้องหาก็จะนัดให้ผู้สมัครใจเหล่านี้มาวางแผนสร้างบาดแผลลักษณะต่างๆ ขึ้น เช่น การนำน้ำแกงเผ็ดเดือดราดที่บริเวณขาให้ได้รับบาดเจ็บแล้วนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนจะนำเอกสารกรมธรรม์ไปยื่นเบิกเงินประกันกับบริษัทประกันภัยต่างๆ ซึ่งแต่ละคนทำไว้คนละหลายบริษัท หลายกรมธรรม์ ทำให้จะได้รับเงินส่วนต่างที่เหลือเป็นจำนวนมาก จากการสืบสวนพบว่า มีผู้เอาประกันที่ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลน้ำร้อนลวกเหมือนกัน และเบิกเงินประกันในลักษณะดังกล่าวทั้งสิ้น 13 ราย นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าที่ผ่านมามีขบวนการกลุ่มมิจฉาชีพที่กระผิดลักษณะดังกล่าว 3 เครือข่ายใหญ่ ในพื้นที่ภาคใต้พบมีความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ในจำนวนนี้พบว่าบริษัทประกันภัยได้จ่ายเงินค่าชดเชยไปแล้ว รวมเป็นเงินกว่า 14 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาจ่ายเงินประกันอีกกว่า 6 ล้านบาท

พ.ต.อ.พงศ์ปณต กล่าวต่อว่า เมื่อแน่ชัดแล้วว่ามีการกระทำผิดจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับขบวนการเหล่านี้ 18 คน 19 หมายจับ พร้อมกับขออำนาจศาลเข้าตรวจค้น 15 จุด ทั่วประเทศ เพื่อติดตามจับกุม จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาเหล่านี้ได้ 16 คน พร้อมอายัดตัวผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่อยู่ระหว่างรักษาตัวจากอาการป่วยโควิด คงเหลือผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการติดตามอีก 1 ราย ซึ่งในจำนวนผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้แล้ว 16 คนนั้น มีตัวการใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าขบวนการรวมอยู่ด้วย 3 คน รวมถึงผู้ต้องหาคนสำคัญที่ทำหน้าที่จัดฉากสร้างบาดแผลให้กับผู้สมัครใจเอาประกัน 3 ราย อย่างไรก็ตามจากปฏิบัติการดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังตรวจค้นพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ไม่มีทะเบียน 2 กระบอก และกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 12 นัด จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.อ.พงศ์ปณต กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 16 คน เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ 15 คน มีเพียงคนเดียวที่รับสารภาพว่า ตนเองมีหน้าที่ทำบาดแผลให้ผู้สมัครกลุ่มขบวนการ โดยจะได้รับค่าจ้างในการสร้างแผลครั้งละ 500-1,000 บาท แล้วแต่ความยากง่ายของบาดแผลที่จะทำ เบื้องต้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป