เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น ได้โพสต์เรื่องราวข่าวร้อนในญี่ปุ่นเกี่ยวกับประเทศไทย ภายหลังสื่อญี่ปุ่น สำรวจเจอรถไฟญี่ปุ่นที่เคยส่งให้ไทย ยังจอดสนิมขึ้นอยู่นาน พร้อมตั้งคำถาม Kiha 183 จะได้มีชีวิตใหม่อีกรอบไหม? โดยได้ระบุรายละเอียดว่า

“รถไฟที่เลิกใช้ในญี่ปุ่น ได้ถูกส่งไปหลายที่ทั่วโลก และเริ่มวิ่งได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า มีรถไฟบางขบวนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไป แต่ไม่ได้ใช้งานมาหลายปีแล้ว และไม่สามารถมีโอกาสได้กลับมาวิ่งได้ง่ายๆ ผู้สื่อข่าวตามไปสำรวจ พบเจ้าน้ำเงิน “ฮามานาสุ” ของ JR ฮอกไกโด ซึ่งเลิกใช้ในปี 2559 หลังจากนั้นก็ส่งมอบให้ประเทศไทย ปัจจุบันเห็นสนิมได้ชัดเจน อาจเป็นเพราะโดนฝนและลมเป็นเวลานาน

คนขายของใกล้ๆ บอกว่า “ก็สงสัยอยู่ว่าทำไมจอดทิ้งไว้นานเกิน” ซึ่งตอนแรกมีแผนที่จะเริ่มซ่อมแซมและนำมาใช้วิ่งในปี 2560 แต่ค่าซ่อมแซม เช่น การปรับล้อเพื่อให้เข้ากับความกว้างรางที่แตกต่างจากญี่ปุ่นนั้นสูง จึงไม่ได้มีการนำมาใช้

ล่าสุดไทยยังได้รับมอบขบวนรถไฟเก่าจาก JR ฮอกไกโดเดือนนี้ ในขณะเดียวกันการรถไฟแห่งประเทศไทยก็กระตือรือร้นที่จะปรับปรุงรถไฟเหล่านี้ให้ใช้ได้ในปีหน้า ทุกคนก็ได้แต่หวังว่า รถไฟเก่าจากญี่ปุ่นจะไม่ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีใครดูแล และตั้งคำถามอีกครั้งว่า มันจะได้กลับมาวิ่งในปีหน้าได้ตามที่ตั้งใจไว้ไหม ชาวเน็ตแห่ดูข่าว และคอมเมนต์ (ขอยกมาบางส่วน)

การรถไฟไทยเคยรับ Kiha 58 ไปแล้ว แต่ก็ปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น ผมไม่แน่ใจว่างบประมาณซ่อมไม่พอหรืออย่างไร เคยเห็นวิดีโอรถไฟญี่ปุ่นที่ถูกทิ้งร้างที่ไทยนะ ฉันเป็นคนรักรถไฟ หวังว่าไทยจะนำมันมาใช้วิ่งได้อีกครั้งนะ ฉันคิดว่าถึงซ่อมได้ ก็วิ่งได้อีกไม่นานเกิน 5 ปี เพราะอะไหล่จะไม่มีนะ อาจเป็นเพราะที่ไทยร้อนมาก รถไฟสร้างมาเพื่อทนหนาว อาจจะมีระบบทำความเย็นไม่พอหรือป่าว รถไฟก็หนักมากๆ เลย

ยังไงก็ดีกว่าของจีน 100 เท่า ต้องซ่อมบานเลย สำหรับ Kiha 183 คุณก็รู้ว่าความกว้างของรางไม่เท่ากับญี่ปุ่น ต้องแก้หนักเลย มันไม่ได้ส่งไปฟรีๆ นะ มีค่าส่ง พยายามใช้งานมันด้วย มันแย่มากเลย รับไปปล่อยไว้ให้ผุพัง เอาไปทำเป็นร้านข้าวแกงได้ไหม หัวใจสลาย”..

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ : ครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น