นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 1/2565 มีมติ ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.-5 เม.ย.65 เป็นการชั่วคราว และจะพิจารณาตามสถานการณ์ว่าควรให้มีการต่ออายุหรือไม่ โดยติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด คาคว่าจะช่วยให้มีหมูเป็นกลับเข้าสู่ระบบเพิ่มเติมประมาณ 1 ล้านตัว

นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ผู้เลี้ยงที่มีปริมาณการเลี้ยงเกิน 500 ตัว ผู้ค้าส่งที่มีปริมาณเกิน 500 ตัว ห้องเย็นที่มีการเก็บสต๊อกเกิน 5,000 กก.ขึ้นไป ให้ดำเนินการแจ้งสต๊อกให้กรมการค้าภายในรับทราบ รวมทั้งแจ้งราคาในทุก 7 วัน เริ่มวันที่ 10 ม.ค. 65 เป็นต้นไป เพื่อให้ทราบปริมาณหมูเป็นในระบบ รวมทั้งหมูแช่แข็ง แช่เย็น เพื่อเร่งนำหมูออกมาจำหน่าย

ส่วนการจำหน่ายเนื้อหมูกำหนดให้มีการติดป้ายราคาจำหน่ายห้ามขายเกินราคาป้ายที่กำหนดไว้ รวมทั้งดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พาณิชย์จังหวัดและกรมการค้าภายในรวมทั้งปศุสัตว์ ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งการขายเกินราคา การเข้าข่ายค้ากำไรเกินควรก็ตาม รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ จะสนับสนุนให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดการส่งเสริมการเลี้ยงเพื่อเพิ่มปริมาณหมูในระบบซึ่งใช้เวลา 3 เดือน ขณะที่มาตรการนำเข้าเนื้อหมูเพื่อแก้ราคาแพงจะยังไม่พิจารณา เพราะห่วงจะกระทบต่อเกษจรกร และระบบตลาดภายในประเทศ

สำหรับสถานการณ์ผลิตสุกรป้อนเข้าสู่ตลาด ตัวเลขเบื้องต้นปิ 64 มีการเลี้ยงสุกรประมาณ 19 ล้านตัว บริโภคในประเทศ 18 ล้านตัว ส่งออกไปต่างประเทศประมาณ 1 ล้านตัว คาดการณ์ว่าปี 2565 จะมีสุกรหายไปจากระบบ เหลิอประมาณ 13 ล้านตัว จาก 19 ล้านตัว ซึ่งบริโภคในประเทศประมาณ 18 ล้านตัว ทำให้ขาดสุกรประมาณ 5 ล้านตัว สำหรับการบริโภค ซึ่งกระทรวงฯ ได้มีการออกมาตรการ และพยายามเร่งดูแลอยู่

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมเร่งดูราคาเนื้อหมูไม่ให้ขายเกินราคา ซึ่งเท่าที่ติดตามในปัจจุบันยังมีราคาสอดคล้องกับต้นทุน ส่วนราคาเนื้อหมูจะลดลงกลับมาอยู่ในสถานการณ์ปกติเมื่อไร จะขึ้นอยู่กับปริมาณเนื้อหมูที่เข้ามาในตลาด และราคาต้นทุนการเลี้ยง กรมพยายามดูแลอย่างเต็มที่