เซปป์ แบลตเตอร์ อดีตประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) ออกมาระบุว่า เขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแผนการปรับรูปแบบฟุตบอลโลกมาแข่งขันกันทุก ๆ 2 ปี แทนที่การฟาดแข้งทุก 4 ปี เนื่องจากมองว่ามันจะส่งผลกระทบอย่างมากกับฟุตบอลในระดับสโมสร หลังองค์กรลูกหนังโลกภายใต้การนำของ จานนี อินฟานติโน ประธานคนปัจจุบัน กำลังเดินหน้าผลักดันโครงการดังกล่าวอย่างเต็มที่ แม้จะถูกต่อต้านอย่างหนักจากหลายภาคส่วน รวมถึงสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และ สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (คอนเมโบล) ก็ตาม
Concerning the biennial World Cup: We must not forget that the basis of our game are the clubs and their impact to society; and if only the national teams play the club loses its right to exist, therefor a clear NO to the 2-year-rhythm of the World Cup. #FIFA #UEFA #biennialWC
— Joseph S Blatter (@SeppBlatter) January 5, 2022
แบลตเตอร์ วัย 85 ปี ซึ่งนั่งเก้าอี้ประธานฟีฟ่าระหว่างปี 1998 – 2015 ก่อนจะถูกถอดออกจากตำแหน่งหลังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการทุจริตในองค์กรนั้น โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “ผมรู้สึกกังวลกับแผนการจัดฟุตบอลโลกทุก 2 ปี เราต้องไม่ลืมว่าพื้นฐานของเกมฟุตบอลคือบรรดาสโมสร และผลกระทบของพวกเขาที่มีต่อสังคม และหากโปรแกรมเตะของทีมชาติมันถี่ยิบขนาดนั้น สโมสรเหล่านั้นก็อาจจะสูญเสียสิทธิในการดำรงอยู่ของสโมสร ดังนั้น ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับฟุตบอลโลกที่เตะกันทุก ๆ 2 ปี”