เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.นิตยา จิตร์บุญ อายุ 46 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวิดีโอเป็นภาพของหัวขโมยรายหนึ่งที่ได้มาลักขโมยต้นไม้ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวและเพจเฟซบุ๊ก อพอลโล่หวายเหนียว หมู่ 3 ซึ่งต่อมาปรากฏว่า ผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง หัวขโมยได้นำต้นไม้มาคืน

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 94/12 ซอยอพอลโล่ หมู่ 3 ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พบกับ น.ส.นิตยา ซึ่งได้เปิดเผยว่า เหตุการณ์ได้เกิดเมื่อคืนวันที่ 3 ม.ค. ตนปิดร้านแล้วได้ใช้ผ้าสแลนสีดำปิดล้อมไว้เหมือนปกติทุกวัน จนกระทั่งเวลา 21.35 น. ได้มีรถกระบะขับมาจอด โดยได้ทำการปิดไฟหน้าและเปิดแค่ไฟหรี่เข้ามาจอดแล้วลงมาเอามือล้วงเข้ามาคว้ากระถางต้นเล็บครุฑด่างแคระแล้วหลบหนีไป ซึ่งในวันรุ่งขึ้น ตนได้ตื่นมาเปิดร้านและได้สังเกตุว่ากระถางต้นเล็บครุฑด่างได้หายไป จึงได้ไปเปิดกล้องวงจรปิดดูเห็นพฤติกรรมดังกล่าวและได้โพสต์ลงสื่อโซเชียล ผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง คนร้ายที่ขโมยไปได้นำมาคืนในเวลา 21.45 น. โดยได้มีบุคคลที่คาดว่าจะเป็นหัวขโมยขี่รถ จยย.นำต้นไม้ที่ขโมยไปใส่ลังกระดาษมาวางที่หน้าร้าน พร้อมเขียนข้อความแนบมาว่า “ผมขอโทษครับ” จึงได้ไปดูกล้องวงจรปิด ดูแล้วจึงได้นำคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดมาโพสต์อีกครั้ง

น.ส.นิตยา กล่าวว่า ไม้ประดับที่โจรขโมยไปคือ เล็บครุฑด่างแคระ มีราคาแค่หลักร้อย เพราะไม้ที่มีราคาแพงจะเก็บเข้าบ้านหมดเพราะเคยโดนขโมยในลักษณะนี้มาแล้ว จึงไม่กล้าเอาไม้ที่มีราคาแพงไว้หน้าบ้าน ซึ่งกรณีที่หัวขโมยเอาต้นไม้มาคืนนั้นก็คิดว่า ต้นที่เอาไปราคาไม่แพงและอาจเป็นไปได้ที่เห็นตัวเองถูกบันทึกภาพไว้ได้ในสื่อโซเชียล จึงเปลี่ยนใจนำมาคืนเพราะกลัวความผิด

เมื่อถามว่าจะดำเนินคดีอะไรมั้ย น.ส.นิตยา เจ้าของต้นไม้บอกว่า คงไม่เอาเรื่องอะไร แต่อยากให้เป็นบทเรียนแก่หัวขโมยคนอื่นๆ ที่จะคิดมาขโมยว่า เดี๋ยวนี้ทุกที่เขามีกล้องวงจรปิดกันหมดแล้ว และสื่อโซเชียลมันไว จึงอยากฝากไว้ว่าอยากได้ไปซื้อเอาจะดีกว่า ถ้าโดนจับได้มันไม่คุ้ม.