“โค้ชโย่ง” นายวรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี กล่าวว่า หลังจากที่เกมอุ่นเครื่องปลายเดือน ม.ค.นี้ กับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ต้องยกเลิกไป เพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ก็คาดว่าการเตรียมทีมของ ช้างศึกพลังหนุ่ม จะไปที่เดือน มี.ค.เลย ส่วนทีมที่จะมาอุ่นเครื่องด้วยนั้นอาจจะเป็น ยูเออี ทีมเดิม ตอนนี้ตนและ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ ผู้ช่วยโค้ช ได้แต่กระจายกันไปดูฟอร์มของนักเตะทั้งไทยลีก 1-3 และหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และจัดแข่งขันในเดือน มี.ค.ได้

เมื่อถามถึงการเตรียมทีมลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 14-26 ก.พ.65 ซึ่งไทยร่วมกลุ่ม เวียดนาม และ สิงคโปร์ นั้น โค้ชโย่ง กล่าวต่อว่า ตอนนี้กำลังรอสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประชุมกับ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม ว่าจะส่งทีมไหนไป เพราะว่าอาจจะไม่ได้ส่งชุด 23 ปี ไปแข่ง อาจจะใช้อายุไม่เกิน 19 ปี หรือ 21 ปี ไปแข่งด้วยซ้ำ

“คิดว่าคงจะไม่ดราม่ากันนะ เพราะไม่ใช่ช่วงฟีฟ่าเดย์ ไม่มีทีมไหนปล่อยนักเตะให้อยู่แล้ว สโมสรโปรแกรมเยอะ นักเตะยู 23-21 ก็เป็นตัวหลักของสโมสรทั้งลีกใหญ่ลีกรอง โอกาสปล่อยตัวยาก ยิ่งอยู่ในช่วงสำคัญด้วย”

โค้ชโย่ง กล่าวต่อไปว่า “อย่าเอาไปเทียบกับชาติอื่นเพราะพวกเขาไม่ได้เล่นบอลลีก เลยส่งชุดเต็มกันมาได้ แต่ของไทยลีกกำลังเข้มข้น ถ้าหากปล่อยไปทีมชาติ สโมสรก็ได้รับผลกระทบ คงต้องเลือกใช้เฉพาะรายการใหญ่ที่สำคัญแทน ทั้งนี้ก็ต้องรอสรุปกันอีกครั้ง”

เมื่อถามถึงการแข่งขันซีเกมส์ ที่เวียดนาม ในเดือน พ.ค. โค้ชโย่ง ที่เคยพาทีมไทยคว้าเหรียญทองปี 2017 ที่มาเลเซีย กล่าวว่า ถ้าได้ตัวมาเต็มๆ ก็คงจะไม่เครียดเท่าไหร่ แต่ตอนนี้กังวลเรื่องเกณฑ์อายุ ว่าจะเอาเกณฑ์ปีก่อนหรือใช้เกณฑ์ของปีนี้ ถ้าหากเกณฑ์ปีที่แล้วตามกำหนดการแข่งขันเดิม ก็จะยังใช้ผู้เล่นอย่าง กฤษดา กาแมน, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร หรือ เอกนิษฐ์ ปัญญา ได้ แต่เจ้าภาพหรือทีมอื่นๆ อาจจะเห็นจุดนี้แล้วให้ใช้เกณฑ์อายุ 22 ปี นับจากปีนี้ก็ได้ ก็จะทำให้ไทยขาดผู้เล่นบางคนไป ดังนั้นตอนนี้ตนกับโค้ชโชคที่ไปดูฟอร์มนักเตะก็ต้องมองหาที่อายุน้อยๆ ไว้ด้วยเช่นกัน

สำหรับทีมชาติไทยชุด 23 ปี นอกจากศึกซีเกมส์แล้ว ปีนี้ยังมีคิวเตะชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่อุซเบกิสถาน เดือน มิ.ย. และ เอเชี่ยนเกมส์ ที่ประเทศจีน ในเดือน ก.ย.ด้วย