จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 บมจ.สินมั่นคงประกันภัย ได้ทำหนังสือแจ้งบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด แบบ เจอ จ่าย จบ หรือโควิด 2 อิน 1 กับผู้ซื้อประกันโดยอ้างเหตุจากภาวะระบาดของโรคโควิดอย่างหนัก จนต่อมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ต้องออกคำสั่งนายทะเบียนยับยั้ง ห้ามให้บริษัทประกันวินาศภัยทุกแห่งบอกเลิกประกันภัยโควิดเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากประชาชนหลายรายว่า ยังคงได้รับจดหมายแจ้งบอกเลิกประกันโควิดจากสินมั่นคง ซึ่งสร้างความไม่สบายใจแก่ผู้ทำประกันเป็นอย่างมาก ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปที่ตัวแทนประชาสัมพันธ์ของ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย ซึ่งได้รับยืนยันว่า ยังขอคงการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิดตามข้อความประกาศเดิมไว้อยู่ และจะนัดหารือกับทาง คปภ.อีกครั้งวันที่ 19 ก.ค.นี้ หากเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบ แต่ก็ยืนยันว่าบริษัทไม่มีปัญหาเรื่องความมั่นคงทางการเงิน โดยลูกค้าประกันภัยประเภทอื่น เช่น รถยนต์ ยังคงติดต่อซื้อ ต่ออายุ หรือแจ้งเคลมประกันได้ตามปกติ

ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ขอให้ประชาชนผู้ทำประกันภัยโควิดทุกคนสบายใจได้ว่า กรมธรรม์โควิดทุกฉบับที่ซื้อไปจากสินมั่นคง หรือจากบริษัทประกันทุกแห่งจะไม่สามารถบอกเลิกได้ และยังได้รับคุ้มครองตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้แน่นอน เพราะคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่องให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิดฯ ที่ คปภ.เพิ่งออกไปเมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง เป็นอำนาจสูงสุดที่ทุกบริษัทประกันวินาศภัยต้องปฏิบัติตาม

ส่วนกรณีที่ประชาชนเพิ่งได้รับจดหมายบอกเลิกประกันภัยจากสินมั่นคง ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะจดหมายบอกเลิกจะไม่มีผลทางปฏิบัติ รวมถึงกรณีที่ทางสินมั่นคงบอกว่าจะขอเข้ามาหารือกับ คปภ.ก่อนนั้น ก็ไม่จำเป็น และไม่มีผลเช่นกัน เพราะคำสั่งนายทะเบียนที่ออกไปถือเป็นคำสั่งทางปกครองไปแล้ว ทุกบริษัทไม่สามารถบอกเลิกกรมธรรม์ประกันโควิดตามอำเภอใจได้

ทั้งนี้ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฯ มีโทษปรับสูงสุด 300,000 บาท และหากปฏิเสธจ่ายสินไหมทดแทน ก็ยังมีความผิดฐานประวิงจ่ายค่าสินไหมฯ เพิ่มอีก ซึ่งต้องเสียค่าปรับ และค่าปรับรายวันเพิ่มเติมด้วย หรือหากใครไม่ได้รับความเป็นธรรม คปภ.ได้เปิดช่องทางร้องเรียนได้ที่เว็บไซต์ คปภ. http://oiceservice.oic.or.th/ หรือติดต่อโดยตรงที่ สำนักงาน คปภ รวมถึง สายด่วนประกันภัย 1186

“ก่อนหน้านี้สินมั่นคงไม่เคยหารือกับ คปภ.มาก่อน โดยมีการแจ้งเพื่อทราบหลังจากที่ออกประกาศบอกเลิกประกันไปแล้วเท่านั้น ซึ่งหากหารือก่อน คปภ.ก็จะแนะนำว่าไม่ควรทำเพราะจะทำให้ผู้เอาประกันเดือดร้อน และกระทบต่อภาพรวมชื่อเสียงของธุรกิจประกันภัย ที่สำคัญ คปภ.มีหน้าที่ดูแลและคุ้มครองประชาชนให้ได้รับความเป็นธรรมสูงสุดจากระบบประกันภัย”

นายสุทธิพล กล่าวว่า ยืนยันว่าขณะนี้บริษัทประกันภัยยังมีความมั่นคงและมีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ซึ่งในส่วนของสินมั่นคงประกันภัย จากการตรวจสอบก็มีเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงไว้ สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และยังมีผลประกอบการที่มีกำไรด้วย ดังนั้นการตัดสินใจบอกเลิกประกันภัยโควิดจึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับฐานะการเงินของบริษัท