เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี นายนัยน์เนตร บัวเพชร อายุ 44 ปี ชาวสวน อ.กาญจนดิษฐ์ พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.กิตติพิชญ์ บุญสุข ทนายความ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย มีพูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.กาญจนดิษฐ์ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ รอง ผกก.นายหนึ่ง สภ.กาญจนดิษฐ์ อ้างว่าถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ ขณะถูกควบคุมตัวไปตรวจยึดของกลางที่บ้านพัก โดยนายนัยน์เนตร เล่าว่า เมื่อเดือน พ.ค.ปี 64 ตนซึ่งเป็นเจ้าของสวนยางพาราได้ไล่คนงานกรีดคนหนึ่งออกไป เพราะมีปัญหาการทำงาน จากนั้นไม่นานได้รับหมายเรียกจาก สภ.กาญจนดิษฐ์ ให้ไปพบพนักงานสอบสวน เนื่องจากมีผู้แจ้งความว่าตนใช้ปืนยิงข่มขู่ชาวบ้าน ซึ่งตนก็เดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว

นายนัยน์เนตร เล่าอีกว่า กระทั่ง เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้รับการประสานจากตำรวจอีกว่าสำนวนไม่พอสั่งฟ้อง ขอให้เดินทางไปพบที่สถานีตำรวจอีกครั้ง จึงเดินทางไปพร้อมกับภรรยา แต่ภรรยานั่งรออยู่ในรถ ซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดรถหน้าโรงพัก เมื่อพบตำรวจ ก็มีนายตำรวจระดับ รอง ผกก.นายดังกล่าว สั่งให้นำไปค้นบ้านพักเพื่อตรวจยึดอาวุธปืน โดยในการเดินทางมี อส.ตร. อีก 1 คนร่วมด้วย โดยนำตนขึ้นรถของทางราชการ เมื่อไปถึงบ้านพัก ตนก็มอบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นปืนของตนมีใบอนุญาตถูกต้องให้กับตำรวจนายดังกล่าวไป

นายนัยน์เนตร อ้างด้วยว่า ระหว่างเดินทางกลับโรงพัก นายตำรวจคนดังกล่าวกลับพาออกนอกเส้นทาง อ้างว่าจะไปเติมน้ำมัน แต่กลับขับไปจนถึงซอยบ้านแม่โมกข์ หมู่ 7 ต.พลายวาส ตนเห็นผิดสังเกตจึงทักท้วงขอลงจากรถ กลับได้รับคำข่มขู่ และทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อย จนบาดเจ็บ และดิ้นรนต่อสู้จนกระทั่งหนีออกมา จากนั้นโทรศัพท์ไปหาภรรยา ซึ่งนั่งรออยู่ที่ลานจอดรถโรงพักให้มารับตัว และเดินทางไปหาหมอ หลังจากวันนั้นก็ไม่มีตำรวจมาตามตัว หรือมีความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีเดิมตนแต่อย่างใด ที่สำคัญในการตรวจยึดอาวุธปืนของตนนั่นก็ไม่มีเอกสารการตรวจยึดแต่อย่างใด อีกทั้งปืนก็ยังคงอยู่กับตำรวจนายนั้น และผลตรวจร่างกายตนแพทย์ลงความเห็นว่าบาดเจ็บหลายแห่ง วันนี้จึงได้เดินทางมาพร้อมกับทนาย เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายตำรวจคนดังกล่าว

ว่าที่ ร.ต.กิตติพิชญ์ กล่าวว่า ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายตำรวจคนดังกล่าว ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ กักขังหน่วงเหนี่ยว และ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งชั้นนี้พนักงานสอบสวนแจ้งว่าจะดำเนินการรับร้องทุกข์ และรวบรวมเอกสาร พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาดำเนินการต่อไป