เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่ 4 ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ว่าอยากร้องขอความเป็นธรรม หลังโดนทำร้ายแล้วไปแจ้งความแต่คดีกลับไม่คืบหน้า ทั้งยังถูกผู้มีอำนาจในตำบลตามมาข่มขู่ถึงบ้าน จากการตรวจสอบพบ นางสุดารัตน์ ดำช่วย อายุ 51 ปี นำเอาคลิปวิดีโอที่ “นิค” ของสงวนชื่อสกุลจริง อายุ 30 ปี อาชีพช่างตัดผม หลานชายของผู้กว้างขวางในพื้นที่ ถือมีดบุกเข้ามาในบ้านพัก ก่อนไล่ทำร้ายบุตรชายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเยื่อแก้วหูฉีก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา

โดย นางสุดารัตน์ เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 11.00 น. ตนได้ยินเสียงลูกชายร้องขอความช่วยเหลืออยู่ในห้องตนจึงรีบวิ่งเข้าไปดูพบ นายนิค กำลังใช้เท้ากระทืบใบหน้าของลูกชายอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับพูดว่า “…มึงขัดคำสั่งทำให้กูรอนาน…” โดยในมือยังถือมีดมาอีกด้วย ตนจึงรีบเอาโทรศัพท์มาถ่ายคลิปไว้ได้บางส่วนหลังจากทำร้ายลูกชาย

นางสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนั้น ตนได้พาลูกชายไปหาหมอ เพราะมีอาการเจ็บหู สุดท้ายหมอระบุ “…เยื่อแก้วหูฉีก…” ต่อมาได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด ตอนแรกตำรวจไม่รับแจ้ง ผ่านไปอีก 1 สัปดาห์ถึงรับแจ้ง แต่ตอนนี้นายนิค ได้หลบหนีไปแล้ว จากนั้นยายของนายนิค ซึ่งเป็นภรรยาของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ได้มาข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ เพราะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัวและไม่ได้รับความเป็นธรรม

ด้าน นายธนากร ดำช่วย หรือ “เปรม” อายุ 27 ปี ผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายเล่าให้ฟังว่า ปกติ นายนิค จะเรียกตนไปรับใช้เพราะเป็นขาใหญ่ ตนกลัวจะโดนทำร้ายก็ต้องยอมไปทำตาม บางครั้งให้ไปเก็บกวาด หรือไปคอยรับใช้อย่างอื่นในร้านตัดผม ล่าสุดสั่งให้ตนไปนั่งเฝ้าขณะนายนิคตัดผม แต่ตนไม่อยากไปจึงโกหกว่า “เดี๋ยวไป” ทำให้นายนิค ไม่พอใจปีนเข้าหน้าต่างหลังบ้าน แล้วลงมือทำร้ายตนดังกล่าว

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านตัดผมของ นายนิค แต่ปรากฏว่าร้านปิดเงียบไม่มีใครอยู่ จึงได้ประสานไปยัง สภ.บ้านกรวด เพื่อสอบถามข้อมูลทำให้ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังออกหมายเรียกตัว นายนิค มาพบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งหากออกหมายเรียก 2 ครั้งแล้วยังไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวแจ้งว่า นายนิค ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปอยู่ที่ จ.ภูเก็ต แล้ว.