เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุดทน ลิ่มอรุณ หรือ อ๊อด อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 7 ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง พนักงานขับรถเทศบาลตำบลลำภูรา อ.ห้วยยอด พร้อมด้วยลูกสาว เดินทางเข้าพบ นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง บริเวณหน้าห้องทำงาน ศาลากลางจังหวัดตรัง ชั้น 2 เพื่อขอความเป็นธรรมหลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ม.ค.65 เวลาประมาณ 16.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า

ในขณะที่ตนเข้าเวรกะกลางคืนอยู่ภายในอาคารสำนักงานเทศบาลลำภูรา ระหว่างนั้นซึ่งอยู่เพียงคนเดียว เนื่องจากเพื่อนที่ต้องอยู่เวรด้วยกันยังเดินทางมาไม่ถึง ทำให้ นายปรีชา ศรีประสิทธิ์ อายุ 46 ปี พนักงานจ้างทั่วไปของเทศบาลฯ เพื่อนสนิทของ ส.ท.เอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี สมาชิกสภาเทศบาล ต.ลำภูราเขต 2 ได้เข้ามาพร้อมกับมาพูดกับตนว่าขอกุญแจรถบรรทุก 6 ล้อของเทศบาลหน่อย เนื่องจาก ส.ท.เหมียว ใช้ให้มาขอเพื่อนำไปบรรทุกโต๊ะ เก้าอี้ของเทศบาลฯ ไปจัดงานเลี้ยงปลดเกษียณให้กับ นายตำรวจรายหนึ่ง ในพื้นที่ ซึ่งเป็นคนสนิทกับ ส.ท.เอ แต่ปรากฏว่าตนไม่ให้กุญแจรถ

เนื่องจากไม่มีใบขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชามายื่นยืนยัน ในระหว่างนั้น ส.ท.เอ ได้โทรฯเข้ามาหา นายปรีชา ว่าทำไมถึงยังไม่เอารถมา นายปรีชาจึงบอก ส.ท.เอ ไปว่า ตนเองไม่ให้กุญแจ ก่อนจะวางสายไป จึงทำให้ตนเข้าไปนอนเวรอยู่ภายในห้องพัก ก่อนเวลาจะห่างออกไปประมาณ 1 ชม. ส.ท.เอ ได้เข้ามาที่เทศบาล พร้อมกับเข้าไปหาตนถึงในห้องนอนเวร ก่อนด่าถึงบุพการี และด่าว่าทำไมถึงไม่ให้ มึงไม่รู้หรอว่ากูเป็นใคร ก่อนที่ตนจะให้ไปคุยนอกห้องนอน ทันทีที่ตนนั่งบนเก้าอี้ ซึ่งมีนายปรีชานั่งกินข้าวอยู่ ปรากฏว่า ส.ท.เอ ได้ถีบยอดอกตน ก่อนที่ศีรษะจะไปกระแทกกับขอบโต๊ะ จนทำให้หัวโน และได้มากระชากคอเสื้อตน ก่อนที่ ส.ท.เอ ได้ขับรถกลับไป และตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.ห้วยยอด เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้

ก่อนที่ทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จะรับเรื่องไว้ และสั่งการต่อให้กับนายภานุวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง เป็นผู้ดูแลและดำเนินการประสานกับทางตำรวจถึงความคืบหน้าของคดี และเตรียมดำเนินการในเรื่องการสอบวินัยกับ ส.ท.เอ ต่อไป

นายสุดทน กล่าวว่า ที่เดินทางมาวันนี้เพราะต้องการความเป็นธรรม หลังจากเกิดเหตุการณ์ก็หวาดกลัวความปลอดภัยเป็นอย่างมาก เพราะยังต้องไปทำงานทุกวัน หลังจากเกิดเหตุมีการมาข่มขู่ให้ตนลาออกจากงาน และสั่งห้ามไม่ให้เป็นข่าว ห้ามไม่ให้ให้ข่าวกับสื่อมวลชน หากเป็นข่าวจะไล่ออก หากไม่เป็นข่าวก็จะให้ทำงานอยู่ต่อ ทำให้ตนหวาดกลัวว่าจะถูกไล่ออกจากงานด้วย เนื่องจากตนเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องดูแลภรรยา และลูกอีก 3 ชีวิต ซึ่งตนทำงานในตำแหน่งนี้มากว่า 11 ปีแล้ว ขณะนี้ได้รับเงินเดือนอยู่ที่ 9,000 บาท ค่าครองชีพอีก 1,000 บาท รวม 10,000 บาท ถ้าหากไม่ได้ทำงานก็จะขาดรายได้ และครอบครัวต้องเดือดร้อน อีกทั้งจะต้องส่งลูกๆเรียนหนังสือ

ยืนยันว่าก่อนหน้านี้ตนกับคนที่กระทำไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน และก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานเป็นพนักงานขับรถด้วยกัน ก่อนที่จะไปลงสมัคร สมาชิกสภาเทศบาล หรือ ส.ท.ได้ในสมัยนี้เป็นสมัยแรก ในขณะเกิดเหตุตนไม่ได้พูดอะไรเลย อยู่ๆเขาก็โวยวาย ไม่พอใจที่ตนไม่ให้กุญแจรถ ขณะนั้นที่ตนไม่ให้ไปเพราะต้องคิดว่าผิดระเบียบหากให้ไป เพราะตนไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะให้ และไม่มีหนังสือการขอใช้มายื่น วันนี้ก็มั่นใจในตัวของผวจ. และศูนย์ดำรงธรรมประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์

นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง กล่าวว่า ตนมอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่อง ซึ่งมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดชัดเจนว่า ส.ท.รายดังกล่าวกระทำจริง และหลังจากนี้จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย คิดว่าผู้เสียหายมีพยานหลักฐานชัดเจน ก็ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย หากใครทำผิดก็ว่าไปตามความจริง และจะดำเนินการให้เร็วที่สุด

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ระบุว่า หลังจากที่ผู้เสียหายไปแจ้งความก็ได้มีการลงเลขคดีไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างเรียกตัว ส.ท.คนดังกล่าวมาให้ปากคำ และดำเนินการตามขบวนกฎหมายต่อไป.