เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่กรมราชทัณฑ์ นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลประจำเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก และเรียกรับเงินจากญาติผู้ต้องขัง เพื่อแลกกับการรักษาตัวผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่และไม่มีความเกี่ยวข้องกับทางเรือนจำจังหวัดพิษณุโลกแต่อย่างใด เป็นการแอบอ้างจากมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลเรือนจำฯ และติดต่อกับญาติผู้ต้องขังแจ้งค่ารักษาตัวผู้ต้องขังที่ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งญาติผู้ต้องขังหลงเชื่อโอนเงินไปให้เป็นจำนวน​ 3,000 บาท กระทั่งสอบถามมาที่เรือนจำฯ จึงทราบว่าเป็นการแอบอ้าง และได้เข้าร้องเรียนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดดังกล่าว เบื้องต้นเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ได้ทำความเข้าใจแก่ญาติผู้ต้องขัง พร้อมดำเนินการแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรวังทองเรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว

นายณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมราชทัณฑ์ ไม่มีนโยบายในการเรียกรับค่าตอบแทนในการให้บริการแก่ญาติและผู้ต้องขังทุกราย โดยเฉพาะในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งผู้ติดเชื้อทุกรายจะได้รับการดูแลรักษา ทั้งจากสถานพยาบาลเรือนจำ รวมถึงจากโรงพยาบาลแม่ข่าย และสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อเข้าดำเนินการดูแลรักษา และให้ยาตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ทั้งนี้ ปัจจุบันเรือนจำจังหวัดพิษณุโลกได้พ้นจากการเป็นเรือนจำแพร่ระบาดแล้วเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา.