กรณีผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครนายก (ไม่ประสงค์ออกนาม) นำคลิปการสอนระบบออนไลน์ของครูสาวท่านหนึ่งมาโพสต์เฟซบุ๊ก ขณะครูกำลังด่าเด็กนักเรียนโดยใช้คำพูดหยาบคาย ไม่เหมาะสม มาโพสต์ตำหนิพฤติกรรมดังกล่าว แล้วถูกครูคนดังกล่าวยังมีการมาข่มขู่ว่าจะแจ้งความกลับข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านผู้ปกครองคนดังกล่าว สอบถามพูดคุย เบื้องต้นเล่าให้ฟังว่า ตนและผู้ปกครองคนอื่นๆ อีก 3-4 คน ไม่เห็นด้วยถึงพฤติกรรมดังกล่าว ยืนยันว่าจะไม่ยอม และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะไม่ต้องการให้ครูคนดังกล่าวสอนในโรงเรียนนี้ต่อไป กลัวว่านักเรียนคนอื่นๆจะโดนแบบนี้อีก หลังจากนี้จะรวมตัวผู้ปกครองล่ารายชื่อทำหนังสือยื่นไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาต่อไป
แม่พิมพ์ของชาติ? สุดทนวาจาครูสอนออนไลน์ด่านร. โพสต์ตำหนิโดนขู่ฟ้องซ้ำ
ด้าน นายพงษ์มิตร สิทธินอก ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากจะขอโทษทั้งนักเรียนและผู้ปกครองทุกคน ทั้งนี้การกระทำของครูคนดังกล่าวดูแล้วไม่สมควรอย่างยิ่งตนไม่เข้าข้างครู แต่อยากให้เข้าใจว่าเป็นเพียงเฉพาะตัวบุคคล ไม่ใช่ครูทั้งหมด รวมถึงสถานศึกษายืนยันจะไม่มีการแจ้งความกลับจากผู้ปกครองคนดังกล่าวที่นำคลิปไปลง และไม่นิ่งนอนใจได้มีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนครูคนดังกล่าวแล้วตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (14 ม.ค.) หลังทราบเรื่องทันที จะรู้คำผลภายใน 7 วัน และจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ด้านครูผู้สอนตามคลิปดังกล่าว เปิดใจว่า วันดังกล่าวมีเรียนออนไลน์ซึ่งเด็กที่ต้องเข้าเรียนทั้งหมดมี 35 คน แต่เข้าเรียนเพียง 9 คน ครูจึงเริ่มมีอารมณ์ไม่พอใจ แต่ก็พยายามสอนต่อไปจนได้เรียกชื่อนักเรียนคนหนึ่ง แต่ไม่มีการตอบกลับเนื่องจากเด็กตั้งโทรศัพท์ไว้แต่ตัวไม่ได้อยู่เรียน ทำให้มีอารมณ์โมโหมากขึ้นจากเดิม จึงต่อว่าออกไป และมีนักเรียนอีกคนพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย ถามถึงว่าวันจันทร์โรงเรียนจะไปเรียนได้ไหม ช่วงนี้เป็นช่วงระหว่างที่โรงเรียนได้มีการหยุดเรียนเนื่องจากมีนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนติดเชื้อโควิด-19
จึงมองว่านักเรียนพยายามที่จะทำให้ครูเสียหน้า เนื่องจากเด็กพร้อมไปเรียนแต่โรงเรียนไม่เปิด กระทั่งได้มีการใช้วาจาที่รุนแรงออกไปตามคลิปดังกล่าว และหลังจากหมดคาบเรียนได้มีพูดคุยและต่างฝ่ายต่างขอโทษกันแล้วระหว่างครูกับนักเรียนคนดังกล่าว แต่ตนไม่คิดว่าจะมีผู้ปกครองเกิดความไม่พอใจจนถ่ายคลิปมาลงโซเชียล ตนเกิดความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้ขอโทษผู้ปกครองทางกลุ่มไลน์และได้ขอให้ลบคลิปออก แต่ทางผู้ปกครองไม่ลบจึงได้มีเตือนไปว่าจะเอาผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากทำให้โรงเรียนเสียหาย แต่ไม่ได้คิดที่จะดำเนินการจริงๆ พูดไปเพียงเพราะตกใจกับกระแสที่เกิดขึ้นเท่านั้น สุดท้ายนี้ขอน้อมรับในสิ่งที่กระทำผิดที่พูดจารุนแรงเกินไปและขอโทษผู้ปกครอง นักเรียน และวอนสังคมให้อภัย
