กรณี คนร้ายชายอายุประมาณ 30 – 35 ปี บุกเข้ามางัดห้องภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอยเรวดี อ.เมือง จ.นนทบุรี ช่วงเช้าวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนสาวทอมผู้พักอาศัยในห้องพักดังกล่าวกลับมาจากตัดผม แล้วเปิดประตูเข้ามาเห็นพอดี เลยถูกทำร้ายบาดเจ็บจนสลบเหมือดไป จากนั้นคนร้ายนำทรัพย์สินเป็นแหวนทอง หลบหนีไปได้ เหตุเกิดพื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี ต่อมามีผู้เสียหายอีกหลายรายออกมาเปิดเผยว่าเคยถูกก่อเหตุลักษณะเดียวกันอีกราย โดยมีหลักฐานกล้องวงจรปิดขณะเข้าไปก่อเหตุในอาคารที่พักต่างๆหลายแห่ง ทำให้ผู้เสียหายหวาดผวาต้องย้ายห้องหนี ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ผวาภัยคอนโด! 2สาวคู่รักจ่อย้ายห้องหนี หลังถูกโจรบุกลักทรัพย์-ทำร้ายแต่เช้า

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด เมื่อเวลา 02.00 น วันที่ 18 ม.ค. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี  พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณทิต  ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี  พ.ต.ท. วรทัศน์ วัฒนชัยนันท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี ร่วมกันจับกุมนายชัย เนินขุนทด  อายุ 39 ปี ชาว เมืองสะหวันเขต ประเทศ สปป.ลาว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 25/2565 ลงวันที่ 17 มกราคม 2565 พร้อมของกลาง 1 รองเท้ายี่ห้อ Adidas สีดำคาดขาว ไขควงยาวประมาณ 1 ฟุต 1 อัน คีม 1 ตัว นาฬิกายี่ห้อ Casio 1 เรือน สร้อยข้อมือ 1 เส้น โดยจับกุมได้ขณะกำลังเดินอยู่ริมถนนพหลโยธิน ซอย 34/2 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพ

สอบสวนเบื้องต้น นายชัย ให้การว่า ก่อนงัดห้องผู้เสียหายเอาทรัพย์สินไปจริง ส่วนคดีที่มีการทำร้ายร่างกายไม่ได้ทรัพย์สินอะไรเลย วันนั้นงัดห้องเข้าไปแล้วผู้เสียหายกลับเข้ามาพอดี เลยดึงเข้าไปในห้องแล้วตบต่อยอย่างละครั้ง และเขาล้มไปหัวกระแทกพื้นเอง จากนั้นได้หลบหนีออกมานั่งแท็กซี่ไปลงที่พระราม 5 ส่วนเงินที่ก่อเหตุได้จะนำไปใช้เที่ยวกินเหล้าตามร้านอาหารหมด เพราะเป็นคนโสดอยู่คนเดียว

นายชัย ให้การอีกว่า อยากขอโทษผู้เสียหายจากใจเพราะไม่ได้ตั้งใจทำร้าย และยอมรับว่าก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง เพราะตกงานไม่มีเงินกลับบ้านไปสมัครงานแล้วเขาไม่รับ ครั้งแรกที่ก่อเหตุที่วัดกำแพง ได้เงินไปแสนกว่าบาท เฉพาะสร้อยทองขายได้ 80,000 บาท ครั้งที่ 2 จำไม่ได้ว่าก่อเหตุที่ไหนแต่ไม่ได้อะไรเลย ครั้งที่ 3 ล่าสุดที่ทำร้ายเจ้าของห้อง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือ ทรัพย์นั้นและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย และ เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือจิตใจ ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.