นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทำแผนเร่งรัดการส่งออกสินค้าที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ของโลกให้มากขึ้น เพราะถือเป็นอนาคตของการส่งออกของไทย และเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง สามารถเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และทำเงินเข้าประเทศได้ดีกว่าการส่งออกสินค้าขั้นปฐมเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ สินค้าที่ต้องส่งเสริมและพัฒนาเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าไลฟ์สไตล์ ที่พัฒนามาจากวัสดุเหลือใช้ หรือผลผลิตเหลือใช้ทางการเกษตร และขยะคุณภาพดีจากแหล่งอุตสาหกรรม ที่นำมาแปรรูปและออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เชิงสร้างสรรค์ สินค้าในกลุ่มอาหารแปรรูป และสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร ที่ได้รับการพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ให้เน้นความสำคัญกับอาหารแห่งอนาคต ประกอบด้วย 4 กลุ่มหลัก 1.อาหารฟังก์ชั่น 2.อาหารนวัตกรรมใหม่ 3.อาหารทางการแพทย์ และ 4.อาหารอินทรีย์ รวมถึงอาหารผู้สูงอายุ โดยมีตลาดส่งออกเป้าหมายหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ขณะเดียวกันจะให้ความสำคัญกับอาหารมังสวิรัติ ที่มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอินเดีย ตลอดจนสินค้าฮาลาล ที่มีทั้งอาหาร และสินค้าแฟชั่น เครื่องนุ่งห่ม เครื่องสำอาง โดยมีตลาดเป้าหมายในกลุ่มประเทศมุสลิม เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ซาอุดิอาระเบีย อียิปต์ เป็นต้น
ส่วนธุรกิจบริการอื่นๆ ให้เน้นบริการด้านการศึกษานานาชาติ ธุรกิจแฟรนไซส์ บริการสิ่งพิมพ์ บรรจุภัณฑ์ สตาร์ทอัพ ก่อสร้าง อีเวนต์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม พร้อมกับส่งเสริมผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงธุรกิจร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไทยมีความโดดเด่น นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์โควิด-19 ให้เร่งรัดผลักดันการส่งออกต่อไป เช่น สินค้าเกษตร และอาหาร ทั้งอาหารคน และอาหารสัตว์เลี้ยง สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน เป็นต้น
