เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นางสาวฉัตรสุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา นายสัตวแพทย์กิตติกรณ์ เจนไพบูลย์ ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา และนายณัฐชัย วรสุทธ์ ด่านกักกันสัตว์จังหวัดสงขลา ร่วมกันแถลงข่าวการเข้าตรวจสอบบริษัทห้องเย็นใน อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งพบว่ามีการเก็บรักษาเนื้อสุกรจากบริษัท เบทาโกร เกษตรอุตสาหกรรม พัทลุง จำนวน 201,650 กก. ในห้องเย็นดังกล่าวนั้น

เบทาโกร ปัดกักตุนเนื้อหมู2แสนกก. เป็นสินค้าคงคลังปกติแจ้งกระทรวงพาณิชย์ล่วงหน้าแล้ว

นางสาวฉัตรสุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากที่ตั้งข้อสังเกตไว้ 4 ประเด็นวานนี้นั้น พบว่าประเด็นแรก บริษัท ปิติซีฟู้ด ในฐานะห้องเย็นที่รับฝากสินค้าไม่ได้แจ้งปริมาณการครอบครองตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 ปี 2565 ซึ่งข้อนี้เป็นความผิดของบริษัทห้องเย็น ปิติซีฟู้ด และทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา ก็ได้เป็นตัวแทนของจังหวัดสงขลา ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.จะนะ เพื่อดำเนินคดีกรณีที่ไม่แจ้งปริมาณในครอบครองแล้ว

ส่วนประเด็นที่ 2 คือ กรณีที่ บริษัท เบทาโกร ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปสุกรใน จ.พัทลุง ที่แจ้งปริมาณไม่ตรงกับปริมาณสต๊อกที่เก็บอยู่ที่ห้องเย็นของ บริษัท ปิติซีฟู้ด นั้น ข้อเท็จจริงพบว่า ทางเบทาโกรได้แจ้งปริมาณในครอบครองตามประกาศ และในแบบแจ้งปริมาณที่แจ้งมาคือ ประมาณ 50,000 กก. เศษ แต่จากการตรวจสอบที่ปิติซีฟู้ดพบว่า มีเนื้อสุกรอยู่ประมาณกว่า 200,000 กก. ที่เบทาโกรไปฝากไว้ ดังนั้นจะมีส่วนต่างอยู่ประมาณกว่า 150,000 กก. นั่นคือรายการที่ไม่มีอยู่ในแบบแจ้ง เช่น หมูบด ขาหมูเผา ซี่โครง สามชั้นแผ่น ซึ่งไม่มีในแบบแจ้ง ดังนั้นก็ไม่ได้ถือว่าเบทาโกรแจ้งความเท็จต่อพนักงาน และถือว่าเบทาโกรไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใด

ส่วนประการที่ 3 ทั้งเบทาโกรและปิติซีฟู้ดได้จัดทำบัญชีคุมถูกต้องตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 2 ปี 2565 โดยที่ทั้ง 2 บริษัทได้เอาเอกสารหลักฐานมายื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และหลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้วปรากฏว่า ทั้ง 2 บริษัทได้ทำบัญชีคุมถูกต้องแล้ว

พาณิชย์จังหวัดสงขลา กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นสุดท้ายเรื่องของทั้ง 2 บริษัท จะเข้าข่ายการกักตุนสินค้าหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบบัญชีของทั้ง 2 บริษัท มีการทำบัญชีรับเข้าและจ่ายออกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564-มกราคมปี 2565 โดยมีการรับเข้าและจ่ายออกเป็นปกติวิสัยที่ทำอยู่ ซึ่งถือว่าไม่เข้าข่ายในการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด