เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ มอบประกาศเกียรติคุณและพวงหรีด จากศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ให้แก่ น.ส.ชาลิสา วงศาวดี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 1 ต.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และได้บริจาคอวัยวะให้แก่สภากาชาดไทย นำไปช่วยเหลือผู้อื่น โดยมีนางระพีพร วงศาวดี อายุ 59 ปี มารดา เป็นผู้รับมอบ ณ ศูนย์บริจาคอวัยวะ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์

แม่ทำกุศลใหญ่ให้ลูกชายวัย19ไฟฟ้าช็อตดับ บริจาคอวัยวะช่วยได้6ชีวิต

นางระพีพร เปิดเผยว่า ลูกสาวทำงานเป็นพนักงานประจำสำนักงานฟู้ดแพนด้า อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เช่าบ้านพักอยู่ในตัวเมืองเพชรบูรณ์ โดยช่วงค่ำวันที่ 21 ม.ค. ลูกสาวขี่รถจยย.ไปบ้านเพื่อน กระทั่งเวลาประมาณตี 2 ขี่กลับมาห้องพัก แต่เมื่อมาถึงหน้าโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ รถไปชนท้ายรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทางบาดเจ็บสาหัส กู้ชีพช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ แพทย์ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากสาหัส ก้านสมองตาย ระหว่างนั้นพยาบาลได้มาแจ้งถึงโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือคนอื่น

นางระพีพร เผยอีกว่า ตนก็เห็นดีด้วยเพราะเป็นความต้องการของลูกสาว เพราะเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวได้ไปร่วมงานวันเกิดพี่สาวตน หรือป้าเขา ยังได้พูดเปรยๆ กับตนว่า ตั้งใจจะบริจาคร่างกาย แต่ยังไม่มีเวลาไปทำเรื่องที่โรงพยาบาล กระทั่งมาเกิดเหตุเสียก่อนทำให้ตนตัดสินใจไม่ยาก แต่อาจช้าหน่อยเพราะตอนนั้นยังมีความหวังว่าจะฟื้นกลับมาแต่ก็ไม่มีปาฏิหาริย์ ซึ่งหากอวัยวะส่วนไหนสามารถนำไปช่วยคนอื่นได้ก็ยินดีบริจาคทั้งหมด วันนี้หากลูกรับรู้ได้อยากจะบอกว่า การตั้งใจบริจาคอวัยวะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะการให้ชีวิตให้แสงสว่างแก่ผู้อื่น เป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ และแม่ขอให้บุญกุศลจากการบริจาคอวัยวะในครั้งนี้ จงส่งให้ลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี ชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีก

นายแพทย์นิติ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้สามารถบริจาคอวัยวะได้ถึง 6 ส่วน คือ กระจกตา 2 ข้าง ไต 2 ข้าง ลิ้นหัวใจ และหลอดเลือดดำ สามารถนำไปช่วยชีวิตผู้ป่วยท่านอื่นได้ถึง 6 คน ถือว่าเป็นกุศลอย่างสูง และขอให้บุญกุศลดังกล่าว จงส่งผลให้ผู้เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิที่ดี ทั้งนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยอวัยวะวาย รอการเปลี่ยนถ่ายอยู่เป็นจำนวนมาก โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ จึงมุ่งเน้นจัดหาและรับบริจาคอวัยวะ ไปช่วยเหลือ โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตและบริจาคอวัยวะ 23 ราย โดยเป็นไต 12 ข้าง ตับ 1 หัวใจ 1 ลิ้นหัวใจ 3 ดวงตา 27 ข้าง สามารถนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้ 44 ราย ในปี 2564 มีผู้เสียชีวิตบริจาคอวัยวะ 39 ราย เป็นไต 18 ข้าง ลิ้นหัวใจ 12 ตา 45 ข้าง สามารถนำไปช่วยผู้ป่วยได้ 65 ราย และในปี 2565 มีผู้เสียชีวิตบริจาคอวัยวะ 8 ราย เป็นไต 4 ข้าง ตับ 1 หัวใจ 1 ลิ้นหัวใจ 1 ดวงตา 6 ข้าง สามารถนำไปช่วยผู้ป่วยได้ 13 ราย