เมื่อวันที่ 27 ม.ค. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร (PCT) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2/หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.แสนสุข พร้อมกำลังร่วมกันสืบสวนและจับกุม นายศุภกิจ อายุ 31 ปี และ น.ส.สุดารัตน์ อายุ 33 ปี ได้ที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, โดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฟอกเงิน”

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า สอบสวน น.ส.สุดารัตน์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ถูกนายศุภกิจชักชวนให้ส่งเอกสารบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านให้เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินออนไลน์ จึงหลงเชื่อและยอมส่งเอกสารให้ ในส่วนนายศุภกิจ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่าเป็นผู้ที่ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายในคดีนี้ โดยใช้บัญชี น.ส.สุดารัตน์ ทำธุรกรรมการเงิน โดยกระทำการเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว และมักจะใช้วิธีการเลือกเหยื่อที่หัวอ่อน ขู่ง่าย เหยื่ออยู่ไกล เพื่อยากต่อการติดตาม

โดยจะใช้การปลอมตัวเป็น 2 คน ทั้งชายและหญิงสลับไปมาเพื่อให้ผู้ถูกหลอกลวงเกิดความสับสน สาเหตุที่ก่อเหตุเนื่องจากนำเงินไปเล่นการพนัน เกิดการขาดสภาพคล่องทางการเงิน บัญชีเฟซบุ๊กใช้ของเพื่อนที่ยังติดคุกในข้อหายาเสพติด ตรวจสอบประวัตินายศุภกิจ พบว่าเคยต้องโทษคดีฉ้อโกงมาแล้ว 2 คดี ปี 2561 สภ.เบตง จ.ยะลา ปี 2561 กับ สภ.ธารโต จ.ยะลา และปี 2561 ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาบ้า สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ในส่วนของ น.ส.สุดารัตน์ พบประวัติคดีปี 2561 ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาบ้า สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่า ก่อนจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.ภ.2 รับแจ้งจากผู้เสียหายเป็นหญิงท้อง 6 เดือน ว่าติดต่อซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้า กับเฟซบุ๊กชื่อว่า “อดิลก งามฉ่ำ” โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวมีการโพสต์ขายรถจักรยานยนต์ในรูปแบบสาธารณะที่บุคคลทั่วไปสามารถติดต่อซื้อขายได้ มีการสร้างเครดิตให้ตนเอง โดยการเอาภาพจากเฟซบุ๊กอื่นๆ มาลงโพสต์ทำเสมือนว่าเป็นร้านขายรถจักรยานยนต์จริงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ส่วนแรก เมื่อถึงเวลาตามที่กำหนดแล้วก็ไม่มีการจัดส่งเมื่อผู้เสียหายติดตามสอบถามเพื่อขอเงินคืน กลับถูกคนร้ายหลอกผู้เสียหายต่อไปอีกสูญเงินเก็บ 14,130 บาท สุดท้ายก็ไม่มีการจัดส่งรถจักรยานยนต์ให้แต่อย่างใดและถูกบล็อกขาดการติดต่อไป เดือดร้อนสูญเงินเก็บทั้งหมด ต้องการเตรียมสร้างอนาคตให้ลูกที่จะเกิดมาอีกทั้งยังมีปัญหากับสามีที่ไม่รอบคอบ

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบ ภ.2 เดินทางไปพบผู้เสียหายเพื่อซักถามข้อมูลผู้เสียหายที่ จ.สุพรรณบุรี โดยผู้เสียหายกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ตัดสินใจซื้อรถจักรยานยนต์มาเพื่อให้สามีขับทำงานหาเงินไปใช้ฝากครรภ์ โดยเงินที่ใช้ซื้อรถจักรยานยนต์ก็เป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายถูกหลอกจนหมดตัวเหลือในบัญชีเพียง 1 บาท ไม่ทราบว่าจะใช้ชีวิตหลังจากนี้อย่างไร อยากให้ ผบ.ตร. ช่วยจับคนร้ายให้ได้และนำเงินมาคืนให้ด้วย ต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. รับทราบเรื่องแล้วจึงสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ (ONLINE PATROL) ประสานงานร่วมกับ ศปอส.ตร. (PCT) สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานร่วมกับ สภ.แสนสุข จังหวัดชลบุรี สำหรับคดีดังกล่าวแม้มูลค่าความเสียหายไม่เยอะมาก แต่สำหรับผู้เสียหายที่ถูกหลอกใช้เงินเก็บก้อนสุดท้าย ขอฝากเตือนประชาชนในการเลือกซื้อของออนไลน์ ควรเลือกซื้อกับบุคคลที่น่าเชื่อถือ หรือจ่ายเงินเมื่อได้รับสินค้าจะปลอดภัยที่สุด