จากกรณีที่โลกออนไลน์พากันแชร์เรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเป็นลูก โดยพยายามไล่พ่อและแม่ รวมถึงพี่น้องให้ออกจากที่ดินแปลงหนึ่ง ถ้าไม่ออกต้องจ่ายค่าเช่า ซึ่งการปะทะคารมกันระหว่างพ่อและทนายความ รวมทั้งฝั่งพี่น้องด้วยนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด ลูกสาวคนที่ 6 ของนายจำนง ซึ่งเป็นคุณพ่อถูกไล่ที่ ได้ไปออกรายการโหนกระแส โดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นพิธีกร พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า “ตั้งแต่ปี 2547 แล้วค่ะ พ่อเอาที่บ้านตรงนี้ ซึ่งตอนนั้นพ่อเป็นผู้ใหญ่บ้านเอาบ้านไปจำนองกับเพื่อนเขาที่เป็นผู้ใหญ่บ้านอีกที เอาเงินเขามา 4 แสน แต่ไม่มีหลักฐานอะไร พอถึงเวลา เขาบอกนานแล้ว ให้เอาเงิน 4 แสนมาคืน แล้วเขาจะเอาโฉนดให้คืน
ทีนี้พ่อเลยเอาที่ดินที่สวนมีอีกแปลง 28 ไร่ไปเข้า ธ.ก.ส. ในวันที่ 29 ม.ค. 2547 เพื่อเอาเงินมาใช้ตรงนี้ 28 ไร่ได้ 3 แสน โดยยืมลูกคนที่ 5 ไป 1 แสนบาท ครบ 4 แสนเอาโฉนดออกมา แล้วคุณพ่อก็ปรึกษากับคุณแม่ โดยคุณพ่อมีลูกกับเมียน้อย 2 คน ในสมัยนั้น แม่ก็เลยกลัวมีปัญหา กลัวทางโน้นมีปัญหากับที่แปลงนี้ เลยบอกพ่อว่าให้แบ่งแยกที่ทั้งหมดให้ลูกๆ ซะ โดย 6 ไร่ จะลงตัวพอดีกับลูก 6 คน
โดยคุณพ่อให้ลูกคนที่ 5 จัดการ แรกเริ่มเลยจะเอาพี่ชายคนโตเข้าชื่อไปด้วย แต่พี่ชายคนโตมีรถสิบล้อกับรถไถ ทำสวนเป็นอาชีพ และวิ่งดิน เขาเลยพูดว่าให้คนที่ 5 คนเดียวก็พอ เพราะยังไงก็ต้องมาแบ่งกันอยู่ดี สุดท้ายกลายเป็นชื่อเขาคนเดียว แล้วเขาไม่แบ่งใครเลย พอนานๆ เขามาเยี่ยมที บอกให้เขาแบ่ง เขาก็ไม่แบ่ง เขาไม่ได้อยู่ที่นั่น เขาอยู่โคราช เขาบอกแบ่งๆ เตรียมเงินไว้เลยนะ ไม่ออกให้นะ เขาก็พูดปกติ จนปี 2563 พ่อเริ่มป่วย แม่เป็นมะเร็งก่อน แล้วพ่อเริ่มเป็นมะเร็ง
พ่อเลยจี้เขาบอกว่าให้มาแบ่งซะ พ่อกับแม่ไม่รู้อยู่ได้นานแค่ไหน มันจะได้เป็นเขตเป็นแดนกันไป แล้วโทรศัพท์ไปหาเขา เขารับสาย บอกว่าเดี๋ยววันอาทิตย์หนูมา แล้วก็โทรฯ ย้อนกลับมาหาแม่ว่าพ่อจะให้ลงมาทำไม แม่ก็เลยบอกว่าจะให้มาคุยเรื่องที่ แบ่งกันซะให้เสร็จสรรพเรียบร้อย พอถึงวันอาทิตย์เขาไม่มา พี่สาวคนที่ 4 โทรฯ ไปถามว่าทำไมไม่มาจะได้คุยกัน เขาบอกไม่มีธุระที่จะมา”
อย่างไรก็ตาม หลังจากเอาแปลงที่เอาไปจำนองกับ ธ.ก.ส. เอาออกมาขายได้ 7 แสน แล้วคืนให้ลูกสาวคนที่ 5 ไปแล้ว 1 แสน ซึ่งมีหลักฐานการคืนเงิน แต่ถ้าหลักฐานรับเงินคงไม่มี เพราะเขารับเงินสดไปให้ตั้งแต่ปี 47 เลย สำหรับเรื่องราวดังกล่าวที่เป็นประเด็นจนเกิดเป็นคลิปหลุดออกมานั้น ลูกสาวคนที่ 6 บอกว่า
“ก็อยากจะคุยกับเขา ตั้งแต่ฟ้องขับไล่มาไม่เคยได้คุยกับเขาเลย อยากให้เขาเข้าไปคุยกับพ่อแม่ จะได้คุยกันว่าเขาทำแบบนี้ทำไม แต่เขาก็ไล่เราแล้ว ที่อยู่ในที่ดินแปลงนี้ มีทุกคนเลย ยกเว้นเขาคนเดียว ซึ่งตอนนี้พี่ชายคนโตเสียชีวิตแล้ว จะเหลือแค่ลูกชายเขากับพี่สะใภ้ อยู่กัน 10 กว่าคน คือถ้าเราไม่ออกเขาจะฟ้องขับไล่แบบนี้ เคยไปไกล่เกลี่ยที่ศาล เขาบอกว่าถ้าจะอยู่ จะต้องจ่ายค่าเช่ามา ให้ทำสัญญา เขาคิดเป็นหลังคา จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ตอนนั้น
สำหรับวันนั้นที่มีปัญหา ก็เข้าไปหาเขา แล้วถามว่าทำแบบนี้กับพ่อแม่ได้ยังไง คุณไปใส่ร้ายพ่อกับแม่ได้ไงว่าพ่อกับแม่ไปเอาเงินคุณมา ทั้งที่มันไม่ใช่ความจริง ความจริงคุณย่อมรู้อยู่แก่ใจ ซึ่งพี่สาวคนที่ 5 ก็มาด้วยกันกับทนาย เขารังวัดที่ดินเพื่อเอาไปทำข้อพิพาทขึ้นศาล แต่วันนั้นพ่อไม่อยู่ พ่อไปให้คีโมวันที่ 15 เลยคัดค้านการรังวัดก่อน และที่วันนั้นมีเรื่องกับทนาย เพราะทางทนายพยายามกีดกันไม่ให้พี่กับน้องคุยกันเลย เข้าไปคุยกับพี่สาว อยากให้เขาเข้าไปหาแม่บ้าง เพราะมาแต่ละครั้งไม่เคยไปหาแม่เลย แม่ร้องไห้ทุกวัน”
ด้าน นายอภิชาต สว่างพลกรัง ทนายฝั่งลูกคนที่ 5 ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “สำหรับเหตุการณ์วันนั้นที่มีข้อพิพาทกัน เหตุการณ์ผ่านมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ผมและทีมงานได้เข้าไปรังวัดที่ดิน เพื่อทราบแนวเขตในที่ดินว่าบ้านทุกหลังมีแนวเขตเท่าไหร่ มีกี่หลังคาเรือน ส่วนเรื่องที่แปลงนี้ ที่มาที่ไปไม่ตรงกันสองฝ่าย ฝั่งอันนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในการพิจารณาคดีของศาล ขออนุญาตไม่นำเสนอครับ
สุดท้ายแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัว ต้องให้คนในครอบครัวเคลียร์กันจะดีกว่าครับ ผมต้องเรียนให้ทราบว่าก่อนมีการฟ้องขับไล่ คุณตาเคยดำเนินคดีกับโจทก์คดีฟ้องขับไล่แล้ว 2 สำนวน แล้วมีการถอนฟ้องไป ส่วนที่กล่าวอ้างว่าอยากคุย อยากเคลียร์กับพี่น้อง ศาลเปิดโอกาสให้เคลียร์แล้ว 2-3 รอบ แต่เคลียร์กันไม่ได้ ส่วนเรื่องค่าเช่าโจทก์เองก็จะโอนเข้าบัญชีพ่อ ไม่ได้เก็บไว้เอง ส่วนค่าเช่าก็เก็บเป็นค่ากินอยู่ของพ่อแม่เป็นรายเดือนไป
ที่ไม่ให้คุยกัน เพราะเขาด่ากันทุกครั้งที่เจอกันครับ แล้วด่ามาถึงทนายความด้วย ซึ่งทนายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องครับ ถ้าจะคุยกันแบบดีๆ ไม่มีการด่า ผมยินดีครับ ผมยินดีให้พ่อลูก และพี่น้องทุกคนมาคุยกันครับ ผมไม่ได้กีดกันครับ ถ้าเขาจะรวมเงินกันสักก้อน ให้ลูกสาวคนที่ 5 สัก 2-3 แสน ให้ที่กลับคืนมาแล้วไปแบ่งกัน เป็นไปได้หมด เรื่องนี้เงินไม่ได้เป็นตัวแปร แต่เป็นความเข้าใจกันซะมากกว่า
ด้านนายจำนง ซึ่งเป็นพ่อถูกไล่ที่ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ถ้าหมดที่ดินแปลงนี้ก็ไม่มีแปลงอื่น ถ้าเขาไล่จริงๆ ยังไม่รู้เลยว่าจะไปอยู่ไหน แถวๆ นั้นก็มีแค่วัดเท่านั้นเอง จริงๆ เขาพูดต่อหน้าศาลไกล่เกลี่ยเลย ว่าต้องโอนเข้าบัญชีเขา แล้วเขาจะเอามาให้พ่อเอง แต่เราไม่เอา เราอยากได้ที่มาแบ่งให้ลูก เพราะลูกไม่มีที่อยู่ ที่ลูกอยู่ปลูกบ้านก่อนโอนให้เขาก่อนปี 30 ถ้าสุดท้ายเขาคืนมา 6 ไร่ ก็แบ่งให้หมดทั้ง 6 คนเหมือนเดิม ในฐานะเป็นลูก
ผมอยากบอกลูกว่าคำที่บอกว่าพ่อส่งเรียนหนังสือ ว่าจะมาโกหก ตอแหลประชาชน คนอื่นเขาไม่รู้หรอก ตัวเองก็รู้ว่าโกงพ่อ โกงพี่โกงน้อง ไม่ใช่ส่งมาตอแหลกับคนทั่วไป อย่ามาทำแบบนี้ ผมอยากให้มาเคลียร์ อยากให้เอาที่มาคืน พูดหลายครั้งแล้ว ไม่ยอมมาคุยกับผมเลย ผมโทรฯ ไปหาเขา เขาก็ตัดทิ้งเลย ไม่มีโอกาสที่จะคุย”
ด้านทนายตั้ม ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับข้อกฎหมายว่า “ถ้าเราจะเล่นเรื่องถอนคืนการให้ มันไม่มีอายุความ สมมติมีเหตุเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อายุความจะเริ่มนับตั้งแต่วันนั้น 6 เดือน ต้องถามคุณตาย้อนกลับไป ใน 6 เดือนนี้ มีเหตุอะไรมั้ย เราไปขอเงินเขา แล้วเขาไม่ให้มายังชีพ เขาทำอะไรให้เสียหาย มีเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ เราก็สามารถฟ้องได้ แล้วอายุความนับ 10 ปี ตั้งแต่เรารู้เหตุ ฉะนั้นเหตุจะเกิดใหม่เรื่อยๆ ไม่ใช่เหตุตั้งแต่การโอน ตอนแรกที่คุณตาบอกว่าเอาที่ไปให้ผู้ใหญ่บ้าน อันนั้นไม่ใช่จำนอง เรียกว่าเอาที่ไปวางเฉยๆ ชายบ้านๆ นั่นแหละไม่ได้ไปทำที่ดิน
ทีนี้น้องโบว์ก็มาปรึกษาว่าจะยังไง เมื่อวานก็ไปที่กบินทร์บุรีก่อน ไล่ข้อเท็จจริงว่ายังไง แล้วไล่ว่าเป็นการให้จากอะไรกันแน่ ถ้าให้แล้วโดยที่มีภาระติดพัน ไปเอาที่ออกมา ไม่สามารถถอนคืนการให้ได้ แต่ก็ยืนยันทั้งคุณตา คุณยาย และลูกๆ ทุกคนว่าที่แปลงนี้ เขามีการยืมเงิน 1 แสนจริง และมีการคืนให้แล้ว เขาก็เอาหลักฐานให้ดู โฉนดที่เข้ากับ ธ.ก.ส. ไปเอาเงินออกมา 3 แสน วันที่ 29 ม.ค. 47 ที่ทำเรื่องถอนจำนอง แล้วหลังจากนั้น เดือน ก.พ. พอไปเอาโฉนดคืนมา ก็เอาเงินไปคืนกับลูกสาวคนที่ 5”
ทนายตั้ม ให้สัมภาษณ์ต่อว่า “ที่เขาพูดว่าโอนค่ายยารักษาให้พ่อ เขาพูดให้เข้าข้อกฎหมายเพราะมีการถ่ายคลิปกันอยู่ ฉะนั้นทางฝ่ายนี้เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่มีความรู้เรื่องอะไรเลย คือมาปรึกษาผม เมื่อวานที่ผมไป ค่อนข้างคิดว่าเราจะทำยังไงถึงจะถอนคืนการให้ได้ เพราะคดีนี้มีอายุความ ถ้าเราจะเล่นเรื่องเขาขับไล่คุณตา เป็นเหตุให้ถอนคืนการให้ อายุความแค่ 6 เดือนนับจากวันที่เรารู้ เขาฟ้องมาตั้งแต่ต้นปี 64 นี่ก็ผ่านมาปีนึงแล้ว หรือไปดูเรื่องตัวกลางตัวแทน คุณตาบอกว่าให้เขาเป็นตัวแทนเชิด ก่อนที่จะไปโอนที่ให้หลายๆ คน ให้กับพี่น้อง แต่เขาไม่ยอมโอน ก็เท่ากับผิดสัญญาตัวการตัวแทน
เราฟ้องเรื่องนี้ได้หรือเปล่า แต่เรื่องนี้เขาโอนตั้งแต่ปี 47 อายุความเริ่มนับตั้งแต่วันนั้นที่เขาไม่ปฏิบัติตามสัญญา แต่นี่ปี 65 แล้วก็ขาดอายุความตรงนี้ กลับไปก็มึนตึ๊บว่าจะช่วยคุณตายังไงดี แต่ก่อนมาออกรายการ นึกออกมานิดนึง ไม่รู้ว่าได้ดูคลิปก่อนหน้านี้หรือเปล่า ที่ลูกคนที่ 5 มีการพูดในทำนองว่าเขาเป็นคนที่เอาเงินไถ่ถอนจำนองเอง ทั้งที่ตอนแรกคุณตาบอกว่าไม่ใช่ ซึ่งทัวร์ไปลงที่คุณตาหาว่าคุณตาโกหก ทำให้คุณตาเสียชื่อเสียง มันก็เป็นเหตุๆ นึง เพิ่งคิดได้ก่อนเข้ารายการ ว่ามันสามารถถอนคืนการให้ได้ เพราะเหตุถอนคืนการให้มีอยู่ 3 อย่าง
หนึ่งทำร้าย สองทำให้ผู้ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง ซึ่งเคสนี้คุณตาเป็นผู้ใหญ่บ้านมาก่อน ออกสื่อทำให้สื่อสนใจเยอะ พอเขาพูดแบบนี้ มีประชาชนบางส่วนเชื่อ ก่อนไปหาคุณตาเมื่อวาน ผมก็เอ๊ะว่าถ้าเขาเอาเงินมาจำนองไถ่ถอนจริงๆ คุณตาก็ไม่มีสิทธิ์พูดอย่างนั้น ว่าให้ไปฟรีๆ ก่อนไปผมก็เชื่ออย่างนี้ จนผมไปเจอคุณตานี่แหละ คุณตาถึงเล่าความจริงว่ามีพยานหลักฐานว่าเงินแสนที่คืนมา เขาคืนไปแล้ว และไม่ได้เกี่ยวอะไรเงื่อนไขการโอนเลย
สำหรับคำถามที่ว่ามีโอกาสได้คืนมั้ย อย่างที่บอกเดี๋ยวเราคงฟ้องถอนคืนการให้ เพราะทำให้คุณตาเสียชื่อเสียง เหตุเพิ่งเกิดหมาดๆ อายุความ 6 เดือน ก็เพิ่งสตาร์ตนับ บอกเลยว่าใครให้ใครมาไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อ ใครให้มาแล้วไปทำให้ผู้รับเกิดสามสิ่งนี้เมื่อไหร่ อายุความเริ่ม 6 เดือนนับแต่วันนั้น ฉะนั้นวันนึงมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาใหม่ ก็มีเหตุให้เรายกเลิกได้เหมือนกัน ถอนคืนการให้ได้
ส่วนประเด็นคืนเงินไม่มีหลักฐาน เขาโต้แย้งว่าเขาต้องการเอาเงินมาให้พ่อ ไม่ได้ไล่พ่อ ทางเรามีหลักฐานโอนที่ดินของ ธ.ก.ส. เป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันพอดีว่าไปขายที่ตรงนั้นเสร็จ ก็ได้โฉนดคืนจากผู้ใหญ่บ้านคนเก่า เดี๋ยวผมทำช่วยคุณตาเรื่องนี้ เขาอยากเจอ (หัวเราะ)”..