จากกรณีนายสหรัช ยิ่งตระกูล อายุ 28 ปี อาชีพพ่อค้าขายลูกชิ้นทอด พร้อมด้วยนายนิฐิพงศ์ ยิ้มศิริ อายุ 34 ปี เดินทางเข้ามาร้องขอความเป็นธรรม จากนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ตำรวจรวมทั้งหมด 6 คน ตบและล็อกแขนและคอจับกุมจนแขนซ้ายหัก โดยแจ้งข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานตามกฏหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่ ทั้งที่ไม่ได้ต่อสู้และหนีการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว พบ พ.ต.ท.เฉลิมพล ซื่อสัตย์ สวป.สภ.เมืองนนทบุรี ได้นำกล้องติดหน้าอกที่บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่ในวันที่เกิดเหตุ มาให้ดูเหตุการณ์ขณะจับกุม

พ่อค้าลูกชิ้นทอดร้องทนายช่วย โดน6ตร.นนท์ตบหน้ารุมล็อกจนแขนหัก

โดย พ.ต.ท.เฉลิมพล กล่าวว่า ตามนโยบายที่เน้นย้ำในการกวดขันรถ จยย.ที่ถูกโจรกรรมหรือลักขโมย จึงให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ทำการออกตรวจไล่ล่าติดตามรถต้องสงสัย โดยเฉพาะรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงพบรถ จยย.ต้องสงสัยไม่ติดป้ายทะเบียนคันดังกล่าว และเรียกตรวจค้นเบื้องต้น พอตรวจค้นก็พบว่าใต้เบาะมีแผ่นป้ายทะเบียนลักษณะชำรุด และคู่มือทะเบียนรถ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้นายสหรัช ยืนยันตัวตนโดยการแสดงบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ แต่นายสหรัชไม่ยินยอมที่จะบอกชื่อตัวเอง จึงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่านายสหรัช เป็นเจ้าของรถ จยย.คันดังกล่าวจริงหรือไม่ เพราะคู่มือทะเบียนรถ จยย.มีชื่อของเจ้าของรถอยู่ ตำรวจก็ต้องการจะยืนยันว่าชื่อเจ้าของรถกับบัตรประชาชนตรงกันไหม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเขียนบันทึกขอยึดรถเพื่อไปตรวจสอบ แต่ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเขียนบันทึกนายสหรัช ไม่ยินยอม และก้าวขาขึ้นรถ จยย.เพื่อที่จะบิดรถหนี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่รู้เจตนาจริงๆ ว่าสาเหตุที่ไม่ให้ความร่วมมือเพราะอะไร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้ยุทธวิธีควบคุมผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยโดยนำตัวลงมาจากรถ เพื่อเมาควบคุมตัวใส่กุญแจมือ ในระหว่างที่ทำการควบคุมตัวนายสหรัช ได้ทำการขัดขืน จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุทำให้แขนของนายสหรัช หัก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าแขนของนายสหรัช หัก จึงยุติการจับกุม และพาตัวนายสหรัชส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าในเวลาต่อมา

สวป.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกกับกุมและไปควบคุมตัวนายสหรัช ที่โรงพยาบาล ซึ่งหมอลงความเห็นว่ากลับบ้านได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกและส่งต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งในการรักษามีค่ารักษาพยาบาลจำนวน 3,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ ส่วนเรื่องการชดใช้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างถูกต้องอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ คงเป็นเพราะตัวผู้บาดเจ็บเองที่จะหลบหนีหรือขัดขืนการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในการสอบพนักงานจับกุมชุดนั้นก็มีกล้องที่ติดอยู่บนหน้าอกของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ซึ่งตนก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการทำเกินกว่าเหตุ และไม่ใช่การทำร้ายร่างกาย และแพทย์เองไม่ได้ลงความเห็นว่าเป็นการทำร้ายร่างกายใดๆ เพราะไม่มีรอยฟกช้ำตามที่เจ้าตัวกล่าวอ้าง

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้วันที่ 26 ม.ค. 65 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้นำตัวนายสหรัชไปฟ้องต่อศาลแขวง จ.นนทบุรี ประกอบกับนายสหรัชที่เป็นจำเลยให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ศาลแขวง จ.นนทบุรี มีคำพิพากษาว่ามีความผิดตามฟ้องแต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา และปรับเป็นเงิน 2,000 บาท.