วันที่ 1 ก.พ. นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัด กทม. เปิดเผยว่า กทม. โดยสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้ดำเนินการติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบเตือนทางข้าม (ทางม้าลาย) และสัญญาณไฟจราจรทางข้ามชนิดกดปุ่มหรือสัญญาณไฟจราจรอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการข้ามถนนของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้ติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบเตือนทางข้ามไปแล้ว 896 จุด และได้ติดตั้งสัญญาณไฟจราจรทางข้ามชนิดกดปุ่ม (ที่มีสภาพบังคับแสดงสัญญาณเขียว เหลือง แดง) ไปแล้ว 240 จุด โดยในปี 65 มีแผนงานที่จะติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบเตือนทางข้ามเพิ่มเติมอีก 50 แห่ง และติดตั้งสัญญาณไฟจราจรทางข้ามชนิดกดปุ่มเพิ่มเติมอีก 100 แห่ง

นอกจากนี้ ยังจะพัฒนาและติดตั้งระบบตรวจจับผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดไม่หยุดรถให้คนข้าม หรือจอดรถกีดขวางทางข้าม โดยใช้ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) บริเวณทางแยก และบริเวณทางข้ามที่ติดตั้งสัญญาณไฟจราจรชนิดกดปุ่ม โดยจะประสานความร่วมมือกับสถานีตำรวจนครบาลท้องที่ในการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ กทม.ต่อไป

ทั้งนี้ นอกจากการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ข้ามถนนบริเวณทางข้าม และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดไม่หยุดรถให้คนข้าม หรือจอดรถกีดขวางทางข้ามแล้ว สจส.ยังได้ดำเนินการปรับปรุงกายภาพบริเวณก่อนถึงทางข้าม เพื่อสร้างความตระหนักเตือนให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะผ่านบริเวณทางข้าม ชะลอความเร็วและหยุดยานพาหนะให้คนเดินข้ามถนน ด้วยการจัดทำเครื่องหมายทางข้าม โดยเฉพาะบริเวณทางข้ามหน้าโรงเรียน โรงพยาบาล และทางแยก ด้วยสีโคลด์พลาสติกสีแดง เพื่อให้มีความแตกต่างจากผิวการจราจรและเครื่องหมายจราจรโดยทั่วไป รวมถึงเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นทางข้ามได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ที่ผ่านมาได้ดำเนินการจัดทำทางข้ามด้วยสีโคลด์พลาสติกสีแดงไปแล้ว 559 จุด มีการจัดทำเส้นเตือนชะลอความเร็ว และเส้น Optical speed bar ในบริเวณก่อนถึงทางข้ามในจุดอื่นๆ เพื่อควบคุมผู้ขับขี่ยานพาหนะให้อยู่ในช่องทางของตนเอง ซึ่งมองดูแล้วจะเหมือนถนนแคบลง ทำให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น และลดความเร็วก่อนถึงทางข้าม รวมทั้งมีการบำรุงรักษาเครื่องหมายจราจรทางข้าม และป้ายเตือนทางข้ามให้อยู่ในสภาพที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะสามารถมองเห็นได้ชัดเจน.