เวลา 15.00 น. วันที่ 3 ก.พ. นางมณฑาทิพย์ นิลตะ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลข 54/4 ถนนเมืองเก่า ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค.65 นายสุเทพ บัวกิ่ง อายุ 62 ปี สามี มีอาชีพค้าขายไอศกรีม ได้เกิดป่วยกะทันหัน เจ็บหลัง แน่นหน้าอก เดินไม่ได้คล้ายกับขาอ่อนแรง ทางโรงพยาบาลกระบี่ ได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.ภูเก็ต เบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยเส้นเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด แตกแยกชั้น มีขาขวาขาดเลือด ตอนนี้สามีของตนต้องนอนป่วยกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

นางมณฑาทิพย์ เล่าว่า ก่อนหน้าที่สามีจะป่วยแขนขาอ่อนแรงได้เข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตราฯ เข็มที่ 3 เมื่อวันที่ 10 ม.ค.65 โดยเข็มแรกสามีได้ฉีดวัคซีน ซิโนแวค 1 เข็ม เข็ม 2 แอสตราฯ และเข็ม 3 แอสตราฯ ซึ่งวันเกิดเหตุโชคดีมากที่สามีป่วยกะทันหัน ที่ รพ.กระบี่ ขณะที่ไปเป็นเพื่อนตนลอกตา เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 ม.ค.เวลาประมาณ 10.00 น. หลังจากที่ฉีดวัคซีนได้ 2 วัน จากนั้นทาง รพ.กระบี่ ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ใน จ.ภูเก็ต ทันที แต่สุดท้ายสามีก็ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง เชื่อว่าสาเหตุมาจากการที่สามีฉีดวัคซีน เพราะก่อนหน้านี้ สามีไม่เคยเจ็บป่วยถึงขั้นนอน รพ.

นางมณฑาทิพย์ กล่าวว่า การที่ตนมาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อ ก็เพื่อต้องการให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบในการรักษาพยาบาล ที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง เป็นเงินกว่า 1 หมื่นบาท และอยากให้ทำเรื่องเกี่ยวกับเงินประกันวัคซีนให้ด้วย เนื่องจากสามีตนได้รับผลกระทบ และตอนนี้ไม่สามารถทำงานได้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาเชิญชวนให้ประชาชน ออกมาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่เมื่อสามีตนซึ่งมีอาการข้างเคียงจากวัคซีน กลับไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร เบื้องต้นได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.กระบี่ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า สามีตนจะได้รับการช่วยเหลือหรือไม่ จึงมาร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่ออีกทางหนึ่ง

แหล่งข่าวจากสำนักงานสาธารณสุข จ.กระบี่ ให้ข้อมูลว่า สำหรับกรณีของนายสุเทพ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องไว้แล้ว อยู่ระหว่างการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไปแล้ว