จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ระดมกำลังเปิดปฏิบัติการ SHUT DOWN! บ่อขยะเถื่อนทั่วกรุง กระจายกำลังเข้าตรวจสอบกวาดล้างกลุ่มนายทุนธุรกิจลักลอบนำขยะมูลฝอยมาฝังกลบในที่ดินของเอกชน หลังแนวทางสืบสวนที่ผ่านมาพบมีการกระทำความผิดกว่าจำนวน 23 จุด เฉพาะในพื้นที่ กทม. แบ่งเป็นเขตมีนบุรี 3 จุด, เขตสวนหลวง 1 จุด, เขตลาดกระบัง 2 จุด, เขตตลิ่งชัน 1 จุด, เขตประเวศ 2 จุด, เขตคลองสามวา 3 จุด, เขตสะพานสูง 5 จุด, เขตหนองแขม 2 จุด, เขตสายไหม 1 จุด และเขตภาษีเจริญ อีก1 จุด จนสามารถตามจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 2 ราย ตามที่ได้เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ก.พ. พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส. กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวค่อนข้างเป็นที่น่ากังวล เพราะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต การจะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง จึงจำเป็นต้องมีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่น ให้เข้ามาข่วยตรวจสอบ หรือ ร่วมกันป้องปราม เนื่องจากสถิติการจับกุมที่ผ่านมาจะพบว่า ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มคนเดิมๆที่เคยถูกจับดำเนินคดีไปแล้ว หรือ กลับมากระทำผิดซ้ำ เนื่องจากโทษที่ได้รับจากความผิดเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นโทษปรับ

พ.ต.อ.วิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังสถานที่ถูกปิดเพราะถูกจับกุม กลุ่มคนเหล่านี้ก็จะย้ายสถานที่โดยไปหาเช่าที่ดินเอกชนรายใหม่เพื่อใช้เป็นสถานที่ทิ้งขยะแห่งใหม่ขึ้นมาแทน และ กระทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ โดยกลุ่มผู้กระทำผิดเหล่านี้จะเน้นหาเช่าที่กับเจ้าของที่ดินเอกชนที่ต้องการถมดินเพื่อวางแผนนำไปขายต่อในอนาคตได้อย่างมีราคา หรือ ทำโครงการหมู่บ้านจัดสรร โดยไม่ได้คำนึงว่าภายใต้พื้นดินนั้นมีแต่เศษซากขยะ ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม หรือ ดินทรุดตัวตามมาในภายหลัง

รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่าพื้นที่ที่มีการเปิดลักลอบทิ้งขยะ หรือ บ่อขยะเถื่อน ส่วนใหญ่จะอยู่ตามพื้นที่ชายเมือง หรือ บริเวณรอบนอกกรุงเทพมหานคร เนื่องจากบริเวณดังกล่าวยังคงพอมีที่ดินว่างเปล่าไม่ได้ทำประโยชน์อยู่บ้าง รวมถึงเป็นพื้นที่ขยายเมืองหรือชุมชน ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างโครงการหมู่บ้านจัดสรร หรือ คอนโดฯ ผุดขึ้นใหม่ค่อนข้างมาก โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ขุดจับกุมและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งสืบหาข้อมูลดำเนินการตรวจสอบ.