ความคืบหน้ากรณีมีเหตุเด็กทะเลาะวิวาทที่โรงแรมแกรนด์การ์เด้นท์ หมู่ 9 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 9 พ.ย.64 ตำรวจ สภ.ขุนทะเล ไปตรวจผู้เสียหายเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 13 ปี มีพฤติกรรมค้าประเวณีจากการถูกชักชวนให้ขายบริการทางเพศ จึงร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุราษฎร์ธานี ให้การช่วยเหลือสู่กระบวนการคุ้มครองการค้ามนุษย์ และได้ขยายผลช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 14-16 ปี ได้อีก 5 คน โดยตำรวจจับกุมผู้ที่กระทำผิดเป็นธุระจัดหา (แม่เล้า)ได้ 4 ราย จากการสอบปากคำทั้งหมดให้การรับสารภาพ ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตัวเองเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 11 ก.พ. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.อ.กิตติพงศ์ ทองทิพย์ รองผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในคดี และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าหลังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อนุมัติหมายจับผู้ซื้อบริการทางเพศเด็กในคดีค้ามนุษย์ จำนวน 4 ราย ในความผิดข้อหาร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุ ไม่เกิน 15 ปี, ร่วมกันกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี, ร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดามารดา, เพื่อการอนาจาร และร่วมกันชักจูงส่งเสริม ยินยิมหรือกระทำการด้วยประการใดให้เด็กทำผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก รวม 4 ข้อหา 

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหาซื้อบริการทางเพศเด็กที่ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี อนุมัติหมายจับในกลุ่มแรกมีจำนวน 4 คนนั้น 1 ใน 4 คนเป็นลูกชายอดีตนักการเมืองชื่อดังคนหนึ่ง และเคยมีคดีความผิดทางเพศมาก่อน ซึ่งผู้เสียหายให้การว่า เคยถูกลูกชายอดีตนักการเมืองดังกล่าวซื้อบริการหลายครั้ง มีทั้งนัดไปยังบ้านพักส่วนตัวและโรงแรมที่พักในพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวภายหลังว่า ในวันนี้สามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ซื้อบริการทางเพศเด็ก ได้จำนวน 4 ราย และอีก 2 รายยังต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานว่า สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 ราย มี 1 รายที่หลบหนี โดยบุคคลที่หลบหนีนั่นเป็นลูกชายอดีตนักการเมืองชื่อดังของ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งตนได้กำชับให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว นอกจากนั้นในการสอบสวนปากคำผู้เสียหายโดยสหวิชาชีพ มีพยานหลักฐานสาวถึงผู้ซื้อบริการอีก 2 ราย โดยหนึ่งในสองรายนี้เป็นนายแพทย์ประจำอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐที่ จ.สุราษฎร์ธานี

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามการทำงานของเจ้าหน้าที่เน้นในเรื่องของการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องขั้นเด็ดขาด เนื่องจากปัญหาการค้ามนุษย์เป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดเพื่อให้หลาบจำ ซึ่งในทุกคดีค้ามนุษย์หากการสอบสวนเชื่อมโยง หรือเกี่ยวข้องกับบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ นักการเมือง หรือบุคคลมีชื่อเสียงในสังคมก็ตาม จะต้องมีการดำเนินการทุกรายไปโดยไม่ยกเว้น บนพื้นฐานของความเป็นธรรม.