เมื่อวันที่ 14 ก.พ. มีรายงานว่า ร.ต.อ.คเณศ งามประเสริฐ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในบ้านเลขที่ 117 ซอยสายลวดซอย 8 แยกย่อยซอย 4 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปพร้อมด้วย พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น พบร่างของนายเมธี กิจแก้ว อายุ 30 ปี ชาว จ.เชียงราย มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณขมับซ้าย ทะลุกลางศีรษะ 1 นัด กลางหน้าอก 1 นัด และใต้รักแร้ข้างซ้ายอีก 1 นัด รวม 3 นัด นอนหงายจมกองเลือดอยู่กับพื้น โดยมี น.ส.สาวิตรี เกลื้อกูล อายุ 37 ปี แฟนสาวนั่งกอดร่างร้องไห้อยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ แต่อาการผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ในที่เกิดเหตุเจาหน้าที่พบหัวกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่จำนวน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าชื่อนายเลิศชาย แซ่อึ้ง อายุ 40 ปี มีอาชีพขับขี่รถ จยย. รับจ้าง อยู่ที่ปากซอยสายลวดซอย 8 เบอร์ 13 หลังก่อเหตุได้ขี่รถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว หลบหนีไป

จากการสอบถามเจ้าของบ้าน ทราบว่า ผู้ตายและแฟนสาวไม่ได้พักบ้านที่เกิดเหตุ แต่มาขอใช้เครื่องซักผ้า โดยขณะเกิดได้มาขอใช้เครื่องซักผ้า และในระหว่างที่ผู้ตายและแฟนสาวกำลังช่วยกันซักเสื้อผ้า ตนก็ได้ยินเสียงผู้ตายทะเลาะอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เสียงจะเงียบลง ต่อมาไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 3 นัด เมื่อวิ่งลงมาดูได้เห็นผู้ก่อเหตุยืนถือปืนสีดำอยู่ในมือ โดยที่ผู้ตายนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะค่อยๆ เดินไปขี่รถ จยย. หลบหนีไปทางปากซอย หลังตั้งสติได้ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ขณะที่แม่ของ น.ส.สาวิตรี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวตนกับนายเลิศชาย เคยเป็นสามีภรรยากันมาหลายปี จนมีลูกด้วยกัน 2 คน อายุ 19 และ 21 ปี จากนั้นมาแยกทางกันเมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา โดยลูกทั้งสองนายเลิศชาย เป็นคนเอาไปเลี้ยง ส่วนลูกสาวตนหลังจากที่แยกทางกับนายเลิศชาย ก็มาคบกับผู้ตาย และแยกไปเช่าห้องพักอยู่ด้วยกัน โดยตนเห็นลูกสาวและผู้ตายเอาเสื้อผ้ามาซัก ก่อนที่นายเลิศชาย อดีตลูกเขย จะตามเข้ามาคุยกันอยู่พักใหญ่ แล้วขี่รถ จยย.ออกไป เพียงไม่นานก็เดินถือปืนย้อนกลับมาและเข้าไปยิง 3 นัดซ้อน ก่อนที่จะเดินถือปืนกลับออกมาแบบใจเย็น

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวนายเลิศชาย ผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้แล้ว ขณะกำลังขี่รถ จยย. หลบหนีออกมาทางถนนสายลวด ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนพร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุ

โดยนายเลิศชาย ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากคับแค้นใจที่ผู้ตายมาแอบคบกับภรรยาตน จนเป็นเหตุให้ภรรยาต้องมาขอแยกทาง ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเก็บได้มาจากงานเจดีย์เมื่อสองปีที่ผ่านมา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนและยิงปืนในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.