จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อันส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของลูกจ้างผู้ประกันตน ให้ได้รับความเดือดร้อน ประสบปัญหารายได้ลดลง ไม่มีรายได้ หรือมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ถูกให้ออกจากงาน หรือถูกเลิกจ้าง ทำให้เกิดความรู้สึกไม่มีความมั่นคงในการดำรงชีพ จึงมีผู้ประกันตนบางส่วนได้ออกมายื่นข้อเสนอขอเงินชราภาพคืนก่อนอายุครบกำหนด หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สิทธิประโยชน์ชราภาพ 3 ขอ”

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้ชี้แจงความคืบหน้าพร้อมเหตุผลความจำเป็นในเรื่องดังกล่าว คือการปรับปรุงแก้ไขสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพ “3 ขอ” ได้แก่ ขอเลือก ขอกู้ และขอคืน ที่กำลังจะนำเสนอร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาว่า จากข้อเรียกร้องที่ให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ เพื่อให้สามารถนำเงินกรณีชราภาพที่ตนสมทบอยู่ในกองทุนประกันสังคมออกมาเพื่อใช้ก่อนบางส่วน (ขอคืน) หรือนำเงินกรณีชราภาพบางส่วนไปเป็นหลักประกันการกู้เงินกับสถาบันการเงิน (ขอกู้) หรือให้มีสิทธิเลือกรับเงินบำนาญชราภาพหรือเงินบำเหน็จชราภาพ เมื่อนำส่งเงินสมทบครบเงื่อนไขการได้รับเงินบำนาญชราภาพแล้ว (ขอเลือก)

ที่ผ่านมาสำนักงานประกันสังคมไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องผู้ประกันตน ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการปรับปรุงแก้ไขประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบกลางทางกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (http://lawtest.egov.go.th) และสำนักงานประกันสังคม (https://www.sso.go.th) รวมทั้งการส่งลิงก์แบบสอบถามความคิดเห็นไปตามช่องทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และไปยังภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้ลูกจ้าง/ผู้ประกันตน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาร่วมกันแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นเผยแพร่ผลผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานประกันสังคม

และนำมายกร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ซึ่งเป็นแรงงานกลุ่มใหญ่ มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับผู้ประกันตนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือจากสถานการณ์อื่นใดซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพ ก็จะได้มีเงินบางส่วนที่สามารถนำมาใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน เพิ่มสภาพคล่องให้ตนเองเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ทางการเงินที่อาจอยู่ในขั้นวิกฤติ ให้ผู้ประกันตนสามารถวางแผนการใช้เงิน มีการบริหารทางการเงินอย่างรอบคอบขึ้น อีกทั้งยังจะทำให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้โดยง่ายแม้จะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนไม่เป็นการสร้างภาระให้แก่สังคมเพิ่มมากขึ้น

“การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายทุก ๆ ครั้ง คำนึงถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นหลักต้องสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ประกันตนกรณีชราภาพ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและความมั่นคงแก่ผู้ประกันตน สำหรับข้อคิดเห็นหรือข้อห่วงใยของผู้ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง “3 ขอ” นั้น สำนักงานประกันสังคมจะได้นำไปประกอบการพิจารณาแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ และรวมทั้งหลักเกณฑ์ เงื่อนไขต่าง ๆ ที่กำหนดในกฎหมายลำดับรอง ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ในการยกร่างกฎหมายดังกล่าว” นายบุญสงค์

ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ประกันตนและเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคมเป็นสำคัญ โดยจะต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อกองทุนประกันสังคม ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมหวังว่า ลูกจ้างผู้ประกันตนจะผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ด้วยกัน..