สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ว่านายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ประกาศการจัดสรรงบประมาณ 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,093.82 ล้านบาท) เพื่อการยกระดับความร่วมมือ ในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ครอบคลุมด้านไซเบอร์สเปซ การคุกคามต่อรัฐ และความมั่นคงทางทะเล


ทั้งนี้ การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการพบหารือผ่านระบบทางไกลอิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างผู้นำสหราชอาณาจักร กับนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ผู้นำออสเตรเลีย

ขณะเดียวกัน ผู้นำทั้งสองประเทศยังร่วมกันแสดงความวิตกกังวล ต่อสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจในเมียนมา โดยเรียกร้องรัฐบาลทหารเมียนมายึดมั่นตาม “ฉันทามติ 5 ข้อ” ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน และเรียกร้องการเจรจา เพื่อบรรเทาความขัดแย้งในยูเครน


ขณะเดียวกัน จอห์สันและมอร์ริสันเห็นพ้องในหลักการ เกี่ยวกับความสำคัญของการที่ทุกประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเสรีและตามสิทธิของตัวเอง เมื่ออยู่ในทะเลจีนใต้ โดยให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุอยู่ในกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (อันคลอส) ฉบับปี 2525 ซึ่งถือเป็น “กฎหมายทะเลระหว่างประเทศ” ในการจัดการข้อพิพาทเขตแดนทางทะเล พื้นที่ทับซ้อน การเดินเรือ และครอบคลุมผลประโยชน์ทางทะเลในทุกด้าน


นอกจากนี้ ผู้นำสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียยังกล่าวถึง “ความคืบหน้าครั้งสำคัญ” ในการที่สหราชอาณาจักรมอบความสนับสนุนให้แก่ออสเตรเลีย ในการจัดหาเรือดำน้ำขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ ตามกรอบข้อตกลง “ออคัส” กติกาความร่วมมือไตรภาคี ที่สมาชิกอีกประเทศ คือสหรัฐ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES