กาซา ได้ชื่อว่าเป็นเขตที่เต็มไปด้วยของโบราณล้ำค่า เนื่องจากเคยเป็นศูนย์กลางในการซื้อขายระหว่างชนชาติต่าง ๆ มาเป็นระยะเวลายาวนาน นับตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ จนถึงยุคจักรวรรดิโรมันและสงครามครูเสด ซากปรักหักพังในบริเวณนี้มีตั้งแต่อาคารและข้าวของจากยุคของอเล็กซานเดอร์มหาราช ไปจนถึงยุคการรุกรานของชาวมองโกล 

ทีมงานเพิ่งขุดค้นหลุมศพของชาวโรมัน ซึ่งนับจำนวน ณ เวลานี้ได้ 20 หลุม โดยทีมงานคาดไว้ว่า จำนวนทั้งหมดน่าจะมีประมาณ 80 หลุม ภายในบริเวณสุสานโบราณที่มีพื้นที่ราว 50 ตารางเมตร ขณะนี้มีเพียงหลุมศพสองแห่งที่ถูกเปิดออก โดยหลุมหนึ่งมีโครงกระดูกและไหดินเผาบรรจุอยู่

จามาล อาบู ริดา อธิบดีกระทวงการท่องเที่ยวและวัตถุโบราณของกาซา อธิบายว่า เมื่อพิจารณาจากรูปร่างของหลุมศพและลวดลายเครื่องประดับที่ปรากฏให้เห็น คาดว่าหลุมศพเหล่านี้น่าจะเป็นที่ฝังศพของคนที่มีตำแหน่งสูงในจักรวรรดิโรมัน ช่วงเวลาประมาณ ค.ศ.ที่ 1 เท่ากับว่าสุสานนี้มีอายุราว 2,000 ปีเศษ

หลุมศพเหล่านี้ไม่เหมือนหลุมศพของชาวมุสลิมซึ่งปรากฏขึ้นในยุคหลัง โดยหลุมศพของชาวมุสลิมจะหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ ขณะที่หลุมศพของชาวโรมัน จะวางตามแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก เขายังกล่าวว่าที่ผ่านมาก็มีการค้นพบในทำนองนี้หลายครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่าสำคัญที่สุดในรอบทศวรรษ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการปิดพื้นที่ไว้ก่อน เพื่อจัดระเบียบและวางมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้ที่อยากเข้ามาเยี่ยมชม

แหล่งขุดค้นดังกล่าวซึ่งอยู่ในความดูแลโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากฝรั่งเศส ถูกค้นพบโดยคนงานก่อสร้างที่กำลังทำงานอยู่ในโครงการสร้างบ้านการเคหะที่ได้งบประมาณจากรัฐบาลอียิปต์ เมื่อพวกเขาพบก้อนอิฐขนาดใหญ่จากสุสาน ก็ตัดสินใจหยุดงานและเรียกทีมนักโบราณคดีเข้ามาตรวจสอบ

ปัจจุบันเขตกาซา อยู่ในความดูแลของกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มชาวมุสลิมของปาเลสไตน์ และยังคงสู้รบกับอิสราเอลมาตั้งแต่ปี 2551 ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากทีมงานต่างชาติ เพื่อดูแลรักษาแหล่งขุดค้นทางโบราณคดีต่าง ๆ 

เครดิตภาพ : Reuters