จากกรณีตำรวจ บก. ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ หน่วยงานอื่นๆ ในสังกัด บช.ก. และ ป.ป.ช. เปิดปฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี” สางต่อคดี ทุจริตเงินทอนวัดเฟส 4 ลุยค้น จ.นครนายก จ.นนทบุรี และ กทม. บุกรวบพระสิทธิวรนายก หรือ “เจ้าคุณแจ๊ค” เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน และรองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก คากุฏิ เจอทั้งเหล้า ถุงยาง และปืนบีบีกัน หลังสืบสวนพบร่วมกับ “นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์” อดีต ผอ.พศ. ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีทุจริตเงินทอนวัดครั้งแรกที่ยังหลบหนี อมเงินบูรณะซ่อมแซม 12 วัดใน จ.นครนายก ไป 110 ล้านบาท จากวัดต่างๆ มาเก็บไว้ แล้วเล่นแค่แปรธาตุเอาไปซื้อที่ดินในชื่อเมีย-ลูก อดีต ผอ.พศ. กว่า 21 ล้านบาท ตามที่ได้เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 ก.พ. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวว่า แนวทางหลังจากนี้ ได้สั่งการให้ชุดคลี่คลายคดีเร่งดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ พระสิทธิวรนายก หรือ “เจ้าคุณแจ๊ค” รวมถึงบุคคลใกล้ชิดคนอื่นๆ เพื่อดูว่ามีการยักย้ายถ่ายเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดไปไว้ที่ใดบ้าง เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามยึดทรัพย์ ที่ได้มาจากการกระทำความผิดกลับคืนมาได้เพียงแค่ 21 ล้านบาท คงเหลือเงินส่วนที่หายไปอีกกว่า 90 ล้านบาท ซึ่งยังต้องเร่งตามหา เนื่องจากการสอบปากคำพระสิทธิวรนายก เมื่อวานที่ผ่านมา ยังไม่สามารถชี้แจงเงินส่วนที่หายไปได้ อ้างเพียงแค่ว่าจำไม่ได้

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า สำหรับที่ดินจำนวนทั้ง 3 แปลง มูลค่า 21 ล้านบาท ที่ทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดกลับคืนได้นั้น ถือเป็นหลักฐานสำคัญ ในการใช้เอาผิดพระสิทธิวรนายก และพวกในครั้งนี้ เนื่องจากพยานหลักฐานที่มีอยู่ รวมถึงคำให้การของเจ้าของที่ดินเดิม ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า พระสิทธิวรนายก เป็นผู้ออกเงินสดซื้อให้กับ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ. โดยซื้อในชื่อของนางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์ ภรรยานายนพรัตน์และ น.ส.ณัฏฐาภรณ์ บุตรสาวนางพัทธานันท์ ในลักษณะของการอําพรางปกปิด

เปิดเส้นทางประวัติ ‘เจ้าคุณแจ๊ค’ ก่อนโดนยุทธการปราบอลัชชีปิดเกม

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่ออีกว่า หากถามจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาเพิ่มเติมหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างพิจารณาข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่ ซึ่งในเร็วๆ นี้ ทางชุดคลี่คลายคดีเตรียมจะมีการเรียกประชุมอีกครั้ง เพื่อหารือข้อสรุปกำหนดแนวทางคดี ว่าจะมีการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นใดบ้าง หรือจะมีการเชิญตัวบุคคลอื่นๆ มาสอบปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยานอีกหรือไม่ รวมไปถึงการกำหนดแนวทางสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายนพรัตน์ นางพัทธานันท์ และ น.ส.ณัฏฐาภรณ์ 3 ผู้ต้องหาที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี และคาดว่าน่าจะหนีออกนอกประเทศไปแล้วต่อไป

“ส่วนกรณีการเข้าตรวจค้นเมื่อวานที่ผ่านมา แล้วตรวจพบเจอ เหล้า ถุงยาง และปืนบีบีกัน ซุกซ่อนอยู่ภายในกุฏิของพระสิทธิวรนายก นั้น จะสามารถเอาผิดหรือ มีบทลงโทษกับทางพระได้หรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางสำนักพระพุทธศาสนา เป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม หรือว่ามีความผิดทางวินัยสงฆ์หรือไม่ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของตำรวจ” ผบก.ปปป. กล่าวทิ้งท้าย