สื่อท้องถิ่นของจีน รายงานว่ามีชายชาวจีน เปิดเผยเพียงชื่อสกุลว่า ‘หลี่’ ถูกลักพาตัวและนำไปเป็น ‘ทาสขายเลือด’ โดยแก๊งค้ามนุษย์ที่เมืองสีหนุวิลล์ ต่อมาเขาหนีรอดจากการคุมขังของแก๊งค้ามนุษย์ดังกล่าว ด้วยความช่วยเหลือจากสมาชิกในแก๊ง ซึ่งตั้งบริษัทปลอมเพื่อทำธุกิจบังหน้า และคดีนี้ได้กลายเป็นคดีที่สร้างความตื่นตระหนกแก่ทางการจีน
ตามรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ ‘เอเชีย แปซิฟิก ไทม์ส’ ตั้งแต่เขาโดนลักพาตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ชายหนุ่มวัย 31 ปี จากมณฑลเจียงซู ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของจีนรายนี้ จะโดนดูดเลือดออกจากร่างกายของเขาเดือนละครั้ง ครั้งละ 800 มิลลิลิตร เพื่อนำไปขายให้ผู้ซื้อทางออนไลน์
การดูดเลือดไปขายดังกล่าว ทำให้แขนของหลี่ มีแต่รอยช้ำและร่องรอยการแทงเข็มหลายครั้ง หลี่ถูกดูดเลือดออกไปเป็นจำนวนมาก และในครั้งสุดท้ายที่เขาโดนดูดเลือด พยาบาลต้องใช้วิธีดูดเลือดผ่านทางเส้นเลือดที่บริเวณศีรษะของเขาแทน เพราะเส้นเลือดที่แขนของเขาให้เลือดได้ไม่มากพอ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่า แก๊งค้ามนุษย์ใช้วิธีการใดในการดูดเลือดออกจากร่างกายของหลี่
ปกติแล้ว การบริจาคเลือดนั้นสามารถบริจาคได้ไม่เกิน 500 มิลลิลิตร และต้องใช้เวลานานถึง 1 เดือน เซลล์ของเม็ดเลือดแดงจึงจะสร้างตัวขึ้นมาจนเต็มตามจำนวนปกติอีกครั้ง ระยะเวลาการทิ้งช่วงของการบริจาคเลือดที่เหมาะสมตามคำแนะนำของสภากาชาดอเมริกัน คือประมาณ 2 เดือนครั้ง
เมื่อหลี่ ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 12 ก.พ. อาการของหลี่ เสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงมาก เนื่องจากอวัยวะภายในหลายส่วนล้มเหลว แต่ขณะนี้อาการของเขาเริ่มคงที่และพร้อมรับการรักษาในขั้นตอนต่อไป
ตามคำให้การของหลี่ เมื่อเขาปฏิเสธที่จะร่วมงานในทีมต้มตุ๋น และหลังจากที่ทางแก๊งพบว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า ซึ่งทำให้ไม่สามารถเรียกร้องค่าไถ่ตัวจากครอบครัวได้ เขาจึงถูกนำตัวไปใช้เป็น ‘ทาสขายเลือด’
หลี่กล่าวว่า หนึ่งในสมาชิกแก๊งข่มขู่เขาว่า ถ้าหากแก๊งไม่สามารถดูดเลือดออกจากร่างกายของเขาได้อีก ก็จะนำอวัยวะภายในของเขาไปขาย เขายังให้ข้อมูลอีกว่า สมาชิกแก๊งมักจะใช้กระบองไฟฟ้าตีเขาและคนอื่น ๆ ที่โดนจับตัวมากักขังไว้
หลี่กล่าวว่า มีคนอื่น ๆ ที่โดนจับตัวมาอีกอย่างน้อย 7 คน ทั้งหมดถูกขังอยู่ในห้องใหญ่ หลี่เล่าว่า คนอื่น ๆ ไม่โดนดูดเลือดมากเท่าเขา เพราะเขามีเลือดกรุ๊ปโอ ซึ่งเป็นกรุ๊ปที่ใช้แทนกรุ๊ปเลือดอื่นได้ หลี่จำได้ว่าหมอที่ตรวจเลือดบอกว่าเลือดของเขามีค่ามาก
หลี่เคยทำงานเป็น รปภ.ในเมืองเสิ่นเจิ้นและปักกิ่ง ก่อนที่จะถูกล่อลวงให้เดินทางไปยังเขตปกครองตนเองกวางซี ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจีน ตามประกาศหลอกรับสมัครงาน เมื่อเขาไปถึงก็ถูกลักพาตัวโดยแก๊งอาชญากร ซึ่งนำตัวเขาข้ามชายแดนจีน-เวียดนาม โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่บังคับ
ในตอนแรก เขาถูกพาตัวไปยังเมืองโฮจิมินห์ในเวียดนาม หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปยังสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ทางเรือ เขาถูกขายให้อีกแก๊งหนึ่งซึ่งทำธุรกิจหลอกลวงต้นตุ๋นทางออนไลน์ โดยคิดค่าตัวเขาประมาณ 18,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 600,000 บาท
หลี่ให้ข้อมูลว่า คนของบริษัทต้มตุ๋นดังกล่าวเป็นคนจีนทั้งหมด เขาและคนอื่นๆ ที่โดนลักพาตัวมาถูกมองว่า เป็นเพียง ‘เครื่องมือ’ ทำเงินของบริษัท
สถานทูตจีนในกัมพูชา ออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ทางสถานทูตได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา ติดตามคดีนี้และจัดให้เป็นคดีสำคัญ นอกจากนี้ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ของทางสถานทูตไปเยี่ยมชายผู้ตกเป็นเหยื่อที่โรงพยาบาลแล้ว
เครดิตภาพและแหล่งข่าว : SCMP
