สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ว่านายกรัฐมนตรีอาบีย์ อาเหม็ด อาลี ผู้นำเอธิโอเปีย เป็นประธานในพิธีเปิดการเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ภายในเขื่อน “แกรนด์ เอธิโอเปียน เรอเนสซองซ์” ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา ตั้งอยู่บนแม่น้ำบลูไนล์ หนึ่งในสาขาของแม่น้ำไนล์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อวันอาทิตย์

เขื่อน “แกรนด์ เอธิโอเปียน เรอเนสซองซ์” ตั้งอยู่บนแม่น้ำบลูไนล์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเอธิโอเปีย


แม้โครงการเขื่อนแกรนด์ เอธิโอเปียน เรอเนสซองซ์ เป็นของรัฐบาลเอธิโอเปีย แต่อียิปต์มีความกังวลต่อการที่เขื่อนตั้งอยู่บนทางน้ำของแม่น้ำบลูไนล์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำไนล์ อย่างไรก็ตาม ซูดานสนับสนุนโครงการนี้ของเอธิโอเปีย เนื่องจากได้รับน้ำก่อนอียิปต์ โดยเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากอานิสงส์ของเขื่อนแห่งนี้จะเป็นผลดีแก่ระบบชลประทานของซูดาน แต่ยังคงกังวลเรื่องการจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้งและฤดูมรสุม


ทั้งนี้ ซูดานยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการต่อเรื่องนี้ แต่กระทรวงการต่างประเทศของอียิปต์ออกแถลงการณ์ ว่าเอธิโอเปีย “ยังคงดื้อดึงละเมิดข้อตกลง” ที่ทั้งสามประเทศลงนามร่วมกัน เมื่อปี 2558 ซึ่งระบุชัดเจน ห้ามมิให้ประเทศหนึ่งประเทศใด “ดำเนินการฝ่ายเดียวตามอำเภอใจ” ต่อเขื่อนแกรนด์ เอธิโอเปียน เรอเนสซองซ์ และการละเมิดครั้งแรกของเอธิโอเปีย คือการเติมน้ำในเขื่อน เมื่อเดือน ก.ค. 2563


ขณะที่รัฐบาลเอธิโอเปียกล่าวว่า เขื่อนแห่งนี้ ซึ่งมีความสูง 145 เมตร และเริ่มก่อสร้าง เมื่อปี 2554 ด้วยงบประมาณ 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 135,040.50 ล้านบาท) จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากถึง 5,000 เมกะวัตต์ เพิ่มกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าของเอธิโอเปียได้มากขึ้นอีกเท่าตัว ด้านสื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานว่า กังหันน้ำตัวหนึ่งภายในเขื่อน สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 375 เมกะวัตต์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : REUTERS