สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ว่า นายโธมัส แอนดรูว์ส ผู้รายงานพิเศษด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมา ของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) จัดการประชุมวาระพิเศษ เพื่ออภิปรายและลงมติเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา โดย “อย่างน้อยที่สุด” ยูเอ็นเอสซีควรมีมติเกี่ยวกับการห้ามส่งออกอาวุธให้แก่กองทัพเมียนมาในทุกกรณี เพื่อป้องปรามการเข่นฆ่าพลเรือน
????????#Myanmar: New report reveals UN Member States #China, #Russia & #Serbia have supplied weapons used against civilians since the military coup. @RapporteurUn calls for a Security Council resolution to urgently stop weapons sales to the military junta: https://t.co/G3pHsW8Tri pic.twitter.com/kFYqFXc93P
— UN Special Procedures (@UN_SPExperts) February 22, 2022
ทั้งนี้ แอนดรูว์สกล่าวในรายงานฉบับล่าสุด ซึ่งนำเสนอต่อยูเอ็นเอสซีในสัปดาห์นี้ว่า จีนและรัสเซียยังคงเป็นผู้สนับสนุนด้านอาวุธรายใหญ่ให้แก่กองทัพเมียนมา และเป็นท่อน้ำเลี้ยงในเรื่องนี้มาตลอด อย่างไรก็ดี อีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจและน่าจับตา คือ เซอร์เบีย ซึ่งส่งออกจรวดและปืนใหญ่ให้แก่รัฐบาลทหารเมียนมา แม้ทั้งสามประเทศตระหนักดี ว่ากองทัพเมียนมาจะใช้อาวุธเหล่านี้โจมตีพลเรือน และเข้าข่ายเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ย้อนกลับไปเมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว สมัชชาสหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) มีมติ 119 เสียง เรียกร้องให้สมาชิกยูเอ็นเอจีเอ “ร่วมกันระงับการเดินทางของอาวุธเข้าสู่เมียนมา” อย่างไรก็ตาม เนื้อหาของมติในภาพรวมลดความดุดันลงมาก เมื่อเนื่องจากเป็นผลจากการวิ่งเต้นของสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน )
แต่ในวันออกเสียงจริง ไทย ลาว กัมพูชา และบรูไน ซึ่งทำหน้าที่ประธานอาเซียนเมื่อปีที่แล้ว “งดออกเสียง” ร่วมกับอีก 32 ประเทศ ส่วนเมียนมา ซึ่งผู้แทนการทูตได้รับการแต่งตั้งในสมัยนางออง ซาน ซูจี อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ “สนับสนุน”.
เครดิตภาพ : REUTERS