เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ภายในห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายชยพล อินทรสุภา นายอำเภอเกาะสมุย ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุย ประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุย การประชุมครั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพจึงขอให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด

การประชุมครั้งนี้นางสาวเบญจวรรณ บุญสิน นายกสมาคมครูและการศึกษาอำเภอเกาะสมุย ได้ร่วมประชุมพร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงเรียนต่างๆ ในอำเภอเกาะสมุย ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าวได้ส่งผลกระทบกับการเรียนการสอนโรงเรียนในอำเภอเกาะสมุยอย่างหนักขณะนี้ เนื่องจากการสั่งปิดโรงเรียนที่ผ่านมา ส่งผลให้นักเรียนที่เป็นเด็กเล็กไม่สามารถอ่านออกเสียง และเขียนได้ ทั้งที่ก่อนการสั่งปิดโรงเรียนนักเรียนสามารถอ่านออกเสียง และเขียนได้

ทั้งที่พบเด็กนักเรียนติดเชื้อเพียงคนเดียวและไม่เป็นคัสเตอร์ในโรงเรียน ซึ่งต่างจากโรงเรียนนานาชาติ ที่ยังคงเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ ทั้งที่พบการติดเชื้อไวรัสโควิดและเป็นคลัสเตอร์ การสั่งปิดโรงเรียนดังกล่าวโรงเรียนในอำเภอเกาะสมุย ต่างปรับการเรียนการสอนตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด ถึงแม้โรงเรียนต่างๆ จะดำเนินการตามมาตรการทั้ง 44 ข้อ ที่สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุยกำหนด แต่โรงเรียนก็ยังถูกคำสั่งปิดการเรียนการสอน จึงต้องการมาตรการที่ชัดเจนเพื่อจะดำเนินการเปิดเรียนได้ตามปกติ เพราะอีกสามสัปดาห์โรงเรียนจะปิดเทอม เพื่อให้โรงเรียนได้ทำการสอบและเก็บคะแนนเด็กนักเรียน ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งแจ้งให้ที่ประชุมทราบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

นางสาวเบญจวรรณ เปิดเผยถึงปัญหาการเรียนการสอนในขณะนี้ว่า ปัญหาของโรงเรียนต่างๆ คือไม่ได้เปิดให้นักเรียนมาโรงเรียน เพียงแต่เปิดเรียนทางออนไลน์ ซึ่งศักยภาพของเด็กที่สำคัญแต่ละครอบครัวของเด็กมีศักยภาพที่ต่างกัน ตนเองในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ได้เปิดสอนสองรูปแบบคือแบบปกติ กับแบบสองภาษา พบว่าเด็กที่เรียนสองภาษาที่เรียนระบบออนไลน์เหมือนกับการสอนแบบปกติ มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด พบว่าเด็กที่เรียนสองภาษาจะมีศักยภาพในการเรียนออนไลน์เพราะครอบครัวมีฐานะ และพบว่าเด็กที่เรียนแบบปกติด้วยออนไลน์จากเด็กห้าสิบคนเมื่อเวลาผ่านไป พบว่าเด็กที่เข้าเรียนออนไลน์ลดลงจากห้าสิบคนเหลือยี่สิบคน

พบว่าเด็กนักเรียนที่เรียนจบระดับประถมศึกษาปีที่ 1 อ่านออกเขียนได้ แต่เมื่อขึ้นชั้นเรียนเป็นชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เรียนออนไลน์เกิดภาวะถดถอยในการเรียนรู้ เนื่องจากผู้ปกครองต้องไปทำมาหากิน ไม่มีเวลาสอนและดูแลลูกให้เรียนระบบออนไลน์ ส่งผลให้เด็กไม่สามารถอ่านออกเสียง และเขียนได้ ด้วยมาตรการของสาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย มีความเข้มข้นเกินไป ทำให้ครูไม่ได้พบกับนักเรียน ทำให้โรงเรียนไม่ได้ใช้แผนเผชิญเหตุใน 44 ข้อที่กำหนดเลย

สำหรับมาตรการในการให้นักเรียนจะต้องตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK นั้น งบประมาณของโรงเรียนซื้อชุดตรวจ ATK สองครั้งก็หมดแล้ว และถ้าหากจะให้ผู้ปกครองไปซื้อชุดตรวจเองนั้นคงเป็นไปได้ยาก เพราะชุดตรวจที่มีขายชุดประมาณ 150 บาท ถ้ามีลูกสองคนจะต้องจ่ายถึงสามร้อยบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวสามารถซื้อข้าวสารได้ห้ากิโลกรัม การขอกลับมาเปิดเรียนใหม่นั้น เพื่อต้องการให้นักเรียนได้พบกับครูภายใต้มาตรการป้องกันการติดเชื้อที่รัดกุม แต่จะให้ตรวจหาเชื้อทุกเจ็ดวันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะโรงเรียนมีงบประมาณไม่พอ.