เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก paisal puechmongkol หัวข้อ “กู้จนเจ๊ง” มีรายละเอียดดังนี้

กู้จนเจ๊ง

ครอบครัวใด หัวหน้าครอบครัวทำมาหากินไม่เป็น

รู้จักแต่จะกู้ยืมเงินมาใช้ ในที่สุดก็ต้องล้มละลาย แม้มีทรัพย์สมบัติเดิมต้องถูกยึดหมดฉันใด ประเทศไทยก็ฉันนั้น

บริหารไม่เป็น พัฒนาเศรษฐกิจไม่เป็น ประชาชน ยากจนทุกข์เข็ญ ความเดือดร้อนทั่วทุกหย่อมหญ้า จนกล่าวกันว่า เจ๊งทั้งแผ่นดิน รู้จักแต่จะกู้เงิน เอามาแจก และไม่แจกเปล่า ยังชักชวนให้ประชาชนเอาเงินที่พอมีอยู่บ้างมาใช้สอย

จึงเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว ทั้งชาติบ้านเมือง และประชาชน

วิกฤติต้มยำกุ้งที่ว่าหนักก็กู้เพียง 1.4 ล้าน ๆ บาท ใช้ดอกใช้หนี้ผ่อนกันมาถึงวันนี้ 25 ปี ยังมีหนี้สินค้างราว 1.2 ล้านล้านบาท ถ้ายังตะบันกู้กันต่อไปคงจะสิ้นแผ่นดิน สิ้นชาติอย่างแน่นอน!

ใครที่ร่วมสร้างกรรมทำเข็ญนี้ก็จงสำเหนียกไว้บ้างว่าได้สร้างกรรมไว้ให้ลูกหลานตัวเองด้วย!!!

จากนั้นนายไพศาล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง “รัฐบาลยังไม่มีวิธีแก้หนี้สิน” ระบุว่า

1.รัฐบาลแสดงท่าทีว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินในภาคครัวเรือน ซึ่งมีจำนวนรวมกันถึง 14.5 ล้านล้านบาท หนี้ดังกล่าวเพิ่มขึ้นในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ร่วม 7 ล้านล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาตรการในการบริหารเศรษฐกิจทำให้คนยากจนเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้ มีจำนวนถึง 20 ล้านคนแล้ว โดยปีที่ผ่านมาปีเดียวก็เพิ่มขึ้นถึง 7 ล้านคน

2.ที่แถลงว่าจะแก้ปัญหาหนี้สินนั้น เป็นเพียงยกหัวข้อปัญหาว่าหนี้สินมีกี่รายการ แต่ไม่มีวิธีในการแก้ปัญหาเลย!!!!

การแก้หนี้สินนั้นต้องทำให้ประชาชนมีรายได้มากกว่ารายจ่าย ซึ่งไม่มีมาตรการนี้เลย

ไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้สินและความยากจนได้เลย เพราะเป็นแค่มาตรการล่อให้ประชาชนนำเงินที่มีอยู่ไปใช้จ่ายให้หมด จึงมียิ่งยากจนลง!

ตราบใดที่ไม่มีมาตรการเพิ่มรายได้ ตราบนั้นไม่มีทางแก้ปัญหาหนี้สินและความยากจนได้ และนอกจากต้องมีมาตรการเพิ่มรายได้แล้ว ต้องมีมาตรการลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนด้วย เช่น ลดค่าน้ำมัน ซึ่งไม่มีมาตรการนี้เช่นกัน

รวมความก็คือ การแก้ปัญหาหนี้สินและความยากจน เป็นเพียงการชวนเชื่อ เช่นเดียวกับวาทกรรมว่า เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน

เรื่องปัญหาความยากจนจึงต้องวังเวงและทรุดหนักต่อไป.

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก paisal puechmongkol