จากกรณีที่นักแสดงสาวชื่อดัง แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตจมแม่น้ำเจ้าพระยา เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 26 ก.พ. ถึงพบร่างดาราสาวลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงท่าน้ำพิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ต่อมา นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ เจ้าของเรือสปีดโบ๊ต, นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน, น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม และ นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือ จ๊อบ ซึ่งอยู่บนเรือลำดังกล่าว เดินทางมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโหนกระแส แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องต่างติดเทรนด์กันข้ามวัน…

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. นายธนกฤต วงศ์สุวรรณ หรือ บอล เจ้าของโรงเก็บเรือ NBC BOAT CLUB เปิดเผยหลังเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ที่มาคือมาพูดคุยและเซ็นคำให้การ ซึ่งได้เคยให้ปากคำไว้ก่อนหน้าแล้ว โดยวันนี้จะมีตนเองและพนักงานที่โรงเก็บเรืออีก 2 คน แต่จะมีข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบเพิ่มเติมในส่วนของคนบนเรือ ว่า สภาพของบุคคลแต่ละคนขณะที่เกิดเหตุเป็นไง ซึ่งในวันที่เกิดเหตุ ตนเห็นว่าทุกคนอยู่ในอาการตกใจ พูดจาไม่รู้เรื่อง วกไปวนมา ซึ่งตนเลือกที่จะคุยกับคุณปอ เพราะเป็นคนเดียวที่รู้จัก ซึ่งคุณปอบอกตนเพียงว่า เพื่อนตกเรือ พร้อมกับชี้จุดตก ส่วนคนอื่นไม่ได้พูดคุย

แฉแล้วใครทำ ‘แตงโม’ ตกเรือ ชี้ผู้ชาย1คน สารภาพไขปริศนาทุกอย่าง…

สำหรับแซน เท่าที่สังเกตพูดจับประเด็นอะไรไม่ค่อยได้ ส่วนที่มองว่าแต่ละคนชี้จุดตกคนละทางนั้น จริงแล้วชี้ทางเดียวกันแต่คนละฝั่ง โดยส่วนตัวถ้าเกิดมีการดื่มแอลกอฮอล์ คนที่น่าจะเป็นคนเมาน้อยสุดคือ “จ๊อบ” สำหรับตนเองชอบคำพูดของ พี่หนุ่ม-กรรชัย ที่ได้กล่าวไว้ว่าเรื่องดังกล่าว “พิเรนทร์จนมีพิรุธ” ซึ่งความมีพิรุธนั้นคือเรื่องของบุคคล ทุกคนทราบดี ไม่ควรที่จะทำแบบนี้ ควรจะอยู่ในเหตุการณ์ก่อน ไม่ควรที่จะทำแบบนั้น จะช่วยได้มากหรือน้อย ก็ควรที่จะอยู่ช่วยให้ข้อมูล

นายธนกฤต เปิดเผยต่อว่า สำหรับในเรื่องของความเร็วเรือหรือความแรง ตนไม่ทราบและยังไม่ได้ข้อมูลจีพีเอส แต่เรือลำดังกล่าวมีความแรงอยู่แล้ว ดังนั้นการออกตัวก็เหมือนกับรถ คืออาจจะมีกระชาก ส่วนในวันเกิดเหตุตนไม่ทราบว่ามีใครมาที่โรงเก็บเรือบ้าง และแต่ละคนกลับไปตอนไหน เรื่องบนบกไม่ทราบเลย เพราะหลังจากได้ข้อมูลก็ออกไปตามหา กลับมาเวลาตี 5 ก็ไม่พบเจอใครแล้ว สำหรับตัวเรือ หลังเกิดเหตุไม่มีการทำความสะอาดหรือล้างแต่อย่างใด ซึ่งเท่าที่สังเกต ไม่มีอะไรผิดสังเกต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทะเลาะวิวาท หรือการทำร้ายร่างกาย เป็นไปได้ยาก

โดยส่วนตัวเชื่อว่าจากการสอบปากคำของทางเจ้าหน้าที่ และการลงพื้นที่เก็บหลักฐาน คาดว่าน่าจะมีหลักฐานหรือคำให้การใด ที่เป็นข้อเท็จจริงหลุดออกมาบ้าง เพราะทางเจ้าหน้าที่ทำงานและลงพื้นที่เก็บรายละเอียดมาก ซึ่งเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนบนเรือจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง คำตอบทุกอย่างอยู่ที่ 5 คนบนเรือ สำหรับเรื่องใบอนุญาต​การขับเรือของปอนั้น คนเล่นเรือทุกคนจะทราบอยู่แล้ว ทางโรงเก็บเรือไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับใบอนุญาต​ แค่ลูกค้ามาเอาเรือแล้วก็ออกไป