จากกรณี พบกลุ่มชายฉกรรจ์ 7 คน บุกเข้าไปยังบ้านพักของชาวบ้านในพื้นที่ บ้านนาเดื่อ ต.นาแก้ว อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร เพื่อตรวจค้นหายาเสพติด แต่กลับไม่แสดงตัวว่าเป็นตำรวจและไม่มีหมายค้น ก่อนจะยัดยาบ้าจำนวน 30 กว่าเม็ดใส่กระเป่า “นางเอ” (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นแม่ของเจ้าของบ้าน จากนั้นก็บังคับให้สารภาพแต่ นางเอ ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องยาเสพติด ฝ่ายกลุ่มชายฉกรรจ์ยังได้เดินค้นรอบบ้านพัก ก่อนจะดึงปลั๊กกล้องวงจรปิดรอบบ้านออก ก่อนจะคุมตัว นางเอ กับกลุ่มคนงานที่กำลังก่อสร้างในบ้าน ไม่เว้นแม้แต่เด็ก 5 ขวบ ซึ่งเป็นลูกสาวของ นางเอ ไปยังบ้านพักแห่งหนึ่ง จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ ได้โทรศัพท์ไปเรียกเอาค่าไถ่จากญาติของนางเอ เป็นเงิน 3 แสนบาท ก่อนจะปล่อยตัวออกมา อย่างไรก็ตาม นางเอ ได้ปรึกษากับญาติก่อนพากันเข้าแจ้งความที่ สภ.โพนนาแก้ว รวมทั้งร้องเรียนไปยังตำรวจภูธรภาค 4 ให้ช่วยสืบหาตัวคนร้ายกลุ่มนี้ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 23-24 ก.พ.ที่ผ่านมา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (4 มี.ค.) พล.ต.ต.สรรธาน อินทรจักร์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เศกสรร สุขประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร แถลงข่าวข้อเท็จจริงว่า ชายฉกรรจ์ 7 คนนั้นเป็นตำรวจจริง โดยผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดีทางอาญาได้ ส่วนทางตำรวจ จะพิจารณา 2 เรื่องคือ เรื่องทั้งคดีอาญาและก็เรื่องการดำเนินการทางวินัย พนักงานสอบสวนมีเวลาดำเนินการใน 30 วัน ต้องมีความคืบหน้า เพื่อส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.พิจารณา สำหรับตำรวจทั้ง 7 นาย ได้ส่งไปประจำอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร เพื่อป้องกันไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับคดี ระหว่างนี้ภายใน 60 วัน หากพบว่ามีมูลข้อเท็จจริงก็จะตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ทั้งนี้ทางผู้บังคับบัญชายืนยันว่าจะต้องได้รับความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย.