สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ว่านายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง แถลงต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) ครั้งที่ 13 ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันเสาร์ มีเนื้อหาในตอนหนึ่ง ว่าการปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ความมั่นคง และผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องที่จีนยังคงต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น


ด้วยเหตุนี้ ในส่วนของงบประมาณกลาโหมประจำแผนงบประมาณปัจจุบัน จะอยู่ที่ 1.45 ล้านล้านหยวน (ราว 7.5 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 7.1% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า และเป็นสัดส่วนมากที่สุด นับตั้งแต่การตั้งงบประมาณส่วนนี้ไว้ที่ 7.5% เมื่อปี 2562


แม้งบประมาณด้านกลาโหมของจีนมีสัดส่วนเพียง 1 ใน 3 ของงบประมาณกลาโหมสหรัฐ แต่รัฐบาลวอชิงตันจับตาการเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวของรัฐบาลปักกิ่ง และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดทุกครั้ง บนสมมุติฐานที่ว่า “จีนเปิดเผยตัวเลขต่ำกว่าความเป็นจริง”

นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง แถลงต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) ณ มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจีนขยายความเพิ่มเติมเล็กน้อย ว่างบประมาณส่วนใหญ่จะได้รับการจัดสรรเพื่อการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ให้แก่กองทัพปลดปล่อยประชาชน (พีแอลเอ) การบริหารจัดการทรัพย์สินของกองทัพ และการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง


ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่หมายเลขสองของรัฐบาลปักกิ่งยังกล่าวถึง “ความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ” ที่หมายถึงเรื่องของไต้หวัน ว่าแผ่นดินใหญ่ยึดมั่น “หลักการจีนเดียว” ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่า “ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน” และรัฐบาลปักกิ่งมุ่งมั่นการรวมชาติให้เกิดขึ้น บนวิถีทางแห่งสันติ


อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน จีนคัดค้านการเคลื่อนไหวของ “ขบวนการแบ่งแยกดินแดน” และ “การแทรกแซงจากภายนอก” อนึ่ง เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น นายไมค์ ปอมเปโอ อดีต รมว.การต่างประเทศสหรัฐ เยือนกรุงไทเป โดยได้รับการต้อนรับจาก ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ซึ่งมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดให้ และปอมเปโอกล่าวว่า “ถึงเวลาแล้ว” ที่สหรัฐต้อง “ให้การยอมรับอย่างเป็นทางการ” ต่อไต้หวัน.

เครดิตภาพ : REUTERS