เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรับการร้องเรียนจาก นางสายหยุด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ชาว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พื้นที่ติดกับจ.สระแก้ว เป็นมารดาของ น้องกานต์ (สงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 10 ขวบ ว่า คืนวันที่ 3 มี.ค.ลูกชายมีอาการปวดท้องอย่างหนักพาไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจ.สระแก้ว โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที ถึงโรงพยาบาลเวลา 4 ทุ่มเศษ หมอตรวจพบว่า ไส้ติ่งอักเสบ แต่ไม่ผ่าตัดปล่อยให้รอหลายชั่วโมงกระทั่งรักษาไม่ทันลูกชายเสียชีวิต จึงต้องการร้องขอความเป็นธรรมจากทางโรงพยาบาลกับเรื่องที่เกิดขึ้น

นางสายหยุด เล่าต่อว่า ภายหลังพาลูกชายที่มีอาการปวดท้องอย่างหนักไปส่งถึงโรงพยาบาลตั้งแต่ 22.00 น.คืนวันที่ 3 มี.ค. ตรวจพบว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบแต่หมอก็ไม่ช่วยผ่าตัดให้ทันที รอกระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 4 มี.ค. จนเด็กเริ่มมีอาการหายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจึงนำไปเข้าเครื่องตรวจสแกนคอมพิวเตอร์ ก่อนนำตัวกลับรักษายังตึกกุมารเวชกรรม แล้วนำตัวเข้าห้องผ่าตัดในเวลา 09.33 น. กระทั่งได้รับแจ้งจากหมอที่ทำการผ่าตัดออกมาบอกว่า ลูกชายไส้ติ่งแตก มีหนอนเต็มท้อง อาการหนักต้องใช้เครื่องปั๊มหัวใจ แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อไว้ได้เสียชีวิตในเวลา 15.30 น.วันเดียวกัน ซึ่งทางครอบครัวยังติดใจการปฏิบัติงานของหมอและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ที่ไม่ผ่าตัดให้ในทันทีหลังตรวจพบทำให้ลูกเสียชีวิต

นางสายหยุด กล่าวว่า กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมฟังสวดพระอภิธรรม พร้อมกับรับปากว่าจะดำเนินการเยียวยาให้ครอบครัว โดยนัดหมายให้เข้าไปพูดคุยเจรจากันในวันที่ 7 มี.ค. จึงทำให้ครอบครัวต้องเลื่อนพิธีฌาปนกิจออกไปเป็นวันที่ 9 มี.ค. และประสานขอความช่วยเหลือทนายเข้าร่วมเจรจาด้วย แต่หวั่นว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงร้องผู้สื่อข่าวดังกล่าว